ไม่พบผลการค้นหา
กสทช. เผยวงเงินรวมในการเรียกเก็บรายได้ จากการให้บริการในช่วงมาตรการเยียวยา คลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ของทั้ง 3 บริษัท (TRUE MOVE, DPC, AIS) ที่จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,918.75 ล้านบาท

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า วงเงินรวมในการเรียกเก็บรายได้จากการให้บริการในช่วงมาตรการเยียวยาทั้งคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ของทั้ง 3 บริษัท (บริษัท ทรู มูฟ จำกัด หรือ TRUE MOVE จากบริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด หรือ DPC และจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS) ที่จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,918,751,835.36 บาท แยกเป็นเงินรายได้ที่เรียกเก็บจากบริษัท ทรู มูฟ จำกัด จำนวน 3,380,083,292.90 บาท บริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด จำนวน 869,086,757.16 บาท และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด จำนวน 6,669,581,785.30 บาท

ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการประกาศเข้าสู่มาตรการเยียวยาตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 มี 4 บริษัทเข้าสู่มาตรการเยียวยา ได้แก่ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด บริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) สำหรับกรณี 3 บริษัท (TRUE MOVE, DPC และ AIS) กสทช. ได้พิจารณาตรวจสอบเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากการให้บริการในระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ 

1. กรณีคลื่นความถี่ 900 MHz มีระยะเวลาการให้บริการในช่วงมาตรการคุ้มครองฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2559 เป็นระยะเวลา 9 เดือน มติที่ประชุม กทค. ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2560 ให้เรียกเก็บเงินรายได้จากการให้บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในช่วงมาตรการเยียวยาบนคลื่นความถี่ 900 MHz จากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS นับตั้งแต่วันที่เข้าสู่มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการ เป็นการชั่วคราวตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 เป็นจำนวนเงิน 7,221,003,499.92 บาท พร้อมดอกผลที่เกิดขึ้น (ยังไม่หักค่าใช้โครงข่าย TOT) และสำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือด่วนที่สุด สทช 5003/4058 ลงวันที่ 3 ก.พ. 2560 เรียกเก็บเงินจำนวนดังกล่าว

โดยเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2561 ที่ประชุม กสทช. ได้มีมติเห็นชอบเกณฑ์และผลการพิจารณาค่าใช้โครงข่ายของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ 900 MHz ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2559 ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด เป็นจำนวนเงิน 551,421,714.62 บาท ทั้งนี้ เมื่อหักค่าใช้โครงข่าย TOT แล้ว เงินรายได้ในช่วงมาตรการเยียวยาของ AIS ที่จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินเป็นเงินทั้งสิ้น 6,669,581,785.30 บาท

2. กรณีคลื่นความถี่ 1800 MHz บริษัท ทรู มูฟ จำกัด มีระยะเวลาการให้บริการในช่วงมาตรการคุ้มครองฯ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2556 ถึงวันที่ 3 ธ.ค. 2558 เป็นระยะเวลา 2 ปี 2 เดือน 18 วัน มติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 17/2561 เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2561 ให้เรียกเก็บเงินให้เรียกเก็บเงินรายได้จากการให้บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในช่วงมาตรการเยียวยาบนคลื่นความถี่ 1800 MHz ในช่วงระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการ นับตั้งแต่วันที่เข้าสู่มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองฯ จากบริษัท ทรูมูฟ จำกัด หรือ TRUE MOVE เป็นเงิน 3,380,083,292.90 บาท (หักค่าโครงข่ายของ CAT เป็นเงิน 1,875,043.24 บาท แล้ว)

ส่วนบริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด หรือ DPC มีระยะเวลาการให้บริการในช่วงมาตรการคุ้มครองฯ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2556 ถึงวันที่ 25 พ.ย. 2558 เป็นระยะเวลา 2 ปี 2 เดือน 10 วัน ให้เรียกเก็บรายได้เป็นเงิน 869,086,757.16 บาท (หักค่าโครงข่ายของ CAT เป็นเงิน 425,729.35 บาท แล้ว) และสำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ สทช 5003/25073-25075 ลงวันที่ 7 ก.ย. 2561 แจ้ง TRUE MOVE, DPC และ CAT ตามลำดับ พร้อมกันนั้นได้มีหนังสือที่ สทช 5003/24973 ลงวันที่ 7 ก.ย. 2561 แจ้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ทราบด้วย 

นายฐากร กล่าวว่า ขณะนี้ที่ยังเหลืออยู่คือ กรณีของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ที่อยู่ในระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ซึ่งเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2561 ที่ประชุม กสทช. มีมติกำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ย่าน 1800 MHz ของ DTAC ให้มีผล ณ เวลา 23.59.59 น. ของวันที่ 15 ธ.ค. 2561

ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ให้บริการสามารถแจ้งการหยุดให้บริการต่อผู้ใช้บริการได้ตามข้อ 9 ของประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวฯ ส่วนกรณีคลื่นความถี่ 850 MHz จะสิ้นสุดการให้บริการในวันที่ 15 ธ.ค. 2561 ตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง จากนั้น สำนักงาน กสทช. จะเร่งตรวจสอบเงินรายได้ดังกล่าวเพื่อนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินให้เร็วที่สุด

“การสิ้นสุดสัญญาสัมปทานของโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บนคลื่นความถี่ 850 MHz และ 1800 MHz ถือเป็นการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยครั้งสุดท้ายแล้ว” นายฐากร กล่าว


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :