จากกรณีเมื่อวันที่ 14 มี.ค. เพจแหม่มโพธิ์ดำแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่ นายจรูญ มณีพันธ์ วัย 82 ปี หรือ "ตาปั่นซาเล้ง" วัย 82 ปี ถูกนายนราธร โสตติยัง หรือจ๊อด ทำร้ายร่างกายจนตกจากรถซาเล้ง โดยให้เหตุผลว่าบันดาลโทสะเพราะนายจรูญปั่นซาเล้งแล้วทำให้รถจักรยานยนต์ของตนล้ม ซึ่งตั้งแต่วันเกิดเหตุนายจรูญ หรือตาปั่นซาเล้ง กลายเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนนายนราธร โสตติยัง ผู้กระทำผิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุการณ์เกิดที่ซอยชานเมืองแยก 2 ประชาสงเคราะห์ แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพ ท้องที่ สน.ห้วยขวาง
ล่าสุดวานนี้ (29 มี.ค.) เพจแหม่มโพธิ์ดำ ที่ติดตามอาการของตาปั่นซาเล้ง และเป็นผู้ช่วยเหลือมาโดยตลอด โพสต์ข้อความแจ้งว่า นายจรูญเสียชีวิตแล้ว หลังจากญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้งเมื่อคืนนี้ จากอาการมีไข้และแผลกดทับ ซึ่งทางเพจแจ้งว่างานศพของนายจรูญจะจัดขึ้นที่วัดห่อหมก ต.ห่อหมก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา รดน้ำศพเวลา 16.00 น. วันนี้ (30 มี.ค.)
ด้าน พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า กรณีนี้นายจรูญเสียชีวิตแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะเปลี่ยนข้อหาแก่นายนราธร เป็นข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามมาตรา 290 ของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งตนได้สั่งให้พนักงานสอบสวนเรียกตัวนายนราธรมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการประสานว่าจะเดินทางเข้ามาวันไหน
ทั้งนี้ในเวลาต่อมา นายนราธร เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า นายนราธรให้การรับสารภาพในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บแก่กายและจิตใจ แต่ให้การปฏิเสธในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุถึงแก่ความตาย โดยอ้างว่ายังไม่ทราบสาเหตุการตายของนายจรูญอย่างแน่ชัดว่าเกิดจากภาวะแทรกซ้อมหรือเกิดจากเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 14 มี.ค. นายนราธรต้องการรอผลยืนยันทางการแพทย์อีกที
ด้านโรงพยาบาลราชวิถี ออกแถลงการณ์เรื่องการถึงแก่กรรมของนายจรูญ มณีพันธ์ หรือตาปั่นซาเล้ง ว่า สืบเนื่องจากทางโรงพยาบาลราชวิถีส่งทีมแพทย์ไปเยี่ยมผู้ป่วยคือ นายจรูญ ที่บ้านพักเมื่อวันที่ 29 มี.ค. แล้วพบว่าผู้ป่วยมีไข้ ซึม และอ่อนแรง จึงส่งเข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ได้รับการตรวจวินิจฉัยด้วยเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ผลการตรวจปกติจึงให้การรักษาภาวะติดเชื้อด้วยยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 22.56 น. ผู้ป่วยได้ถึงแก่กรรม โดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตจากภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด