นายพิสิษฐ์ สันตพันธ์ อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ยืนยันส่วนตัวไม่ได้ไปต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และไม่เคยคิดจะย้ายไปซบพรรคของกลุ่มผู้มีอำนาจ เพราะตนยังยึดมั่นในความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ว่ายังสนับสนุนให้ตนทำงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยต่อไป
"ขอให้คนที่ติดต่อประสานงานให้ผมย้ายพรรคกับภรรยาผม เลิกได้แล้ว เป็นตายผมก็ไม่ย้าย ปกติผมเป็นเป็นคนพูดน้อย ไม่อยากวุ่นวายกับกลุ่มใด"
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย มั่นใจว่า กระแสพลังดูด และการย้ายพรรคของนักการเมืองจะไม่สร้างปัญหาให้กับพรรคเพื่อไทย กลับกันจะทำให้ประชาชน มองเห็นข้อเท็จจริงจากการดูดมากขึ้น โดยเห็นว่า หาก อดีต ส.ส.ย้ายพรรคจริงจะมีตัวแทน พร้อมทำหน้าที่ทดแทน และประชาชนยังพร้อมให้การสนับสนุนพรรคเพือไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน
นพ.ชลน่าน ระบุว่า อดีตส.ส.ที่ มาจากการเลือกตั้งปี 2554 ถูกดูด มีจำนวนน้อยมาก ซึ่งจากการศึกษา การทำงานของรัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทย และในนามส่วนตัว มั่นใจว่า การอัดฉีดงบประมาณผ่านหลายโครงการ นับแสนล้านบาทไม่มีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งหน้า เสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่ยืนยันว่า โครงการมีความยุ่งยากและไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่ยอมรับการช่วยเหลือ เพราะดีกว่าจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆเลยจากการทำงานของรัฐบาล
นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า นโยบายของรัฐบาล ไม่ได้มาจากการรับฟังเสียงของประชาชน การให้ทำประชาคมเพื่อเสนอความคิดเห็นจึงไม่เกิดประโยชน์ ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ขณะที่การบริหารนโยบาย ของรัฐบาลในอนาคตจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีกติกาและแผนยุทธศาสตร์ชาติ คอยกำกับควบคุม และมีองค์กรอิสระคอยจับตา การบริหารนโยบายอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากองค์กรอิสระมีอคติกับพรรคการเมือง จะส่งผลให้ นโยบายที่ประชาชนต้องการไม่ถูกผลักดัน
ดังนั้นกติกาในลักษณะดังกล่าว จึงสะท้อนให้เห็นว่า การบริหารประเทศไม่จำเป็นต้องมีรัฐบาล หรือประเทศไม่จำเป็นต้องเป็นประชาธิปไตย และกลไก ที่ถูกกำหนดขึ้นก็สามารถบริหาร ประเทศให้เดินหน้าไปได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง