วันที่ 14 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เวลาประมาณ 08:00 น. เด็กๆ พร้อมผู้ปกครอง ทยอยเดินทางมาร่วมสนุกกับกิจกรรมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มาออกบูธกันเป็นจำนวนมาก บางคนมากับครอบครัว เพื่อน และบางส่วนมาเป็นกลุ่มพร้อมคณะครูที่โรงเรียนของตนเอง
โดย ประยุทธ์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้เจอทุกคน ในฐานะนายกรู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้เห็นอนาคตของชาติมีความรู้ความสามารถเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง โดยในปีนี้ ตนได้กำหนดคำขวัญไว้ว่า “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” อาจจะไม่โมเดิร์นเท่าไหร่ แต่มีความหมายลึกซึ้งในทางปฏิบัติ
“รู้หน้าที่” โดยเรามีหน้าที่ร่วมกันต่อ ชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ ขณะที่เด็กและเยาวชนต้องมีหน้าที่ต่อตนเอง คือ กตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครู ต้องหมั่นแสวงหาความรู้ พัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ และต้องมีวินัยต่อสังคม เคารพกติกา กฎระเบียบ และกฎหมาย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น
นอกจากนี้ ประยุทธ์ ได้กล่าวย้ำถึง 3 คำที่เด็กและเยาวชนต้องตระหนักไว้ คือ 1.สิทธิ 2.หน้าที่ และ 3.เสรีภาพ เป็นสิ่งที่ยึดโยงกันหมด ต้องปฏิบัติไปพร้อมกัน บ้านเมืองจึงจะสงบสุข เรียบร้อย มีเสถียรภาพ
“มีวินัย” จะทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต วินัยต้องเริ่มจากตัวเราเอง ถ้าคนในสังคมเคารพกฎหมาย บ้านเมืองก็ไม่วุ่นวาย เพราะกลไกและกระบวนการต่างๆตามกฎหมายนั้นมีอยู่แล้ว ถ้าทุกคนปฏิบัติตามขั้นตอน ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน หากเคารพซึ่งกันและกัน ย่อมเดินหน้าได้หมด ไม่เกิดปัญหา ขอให้ศึกษาให้ดีเพราะเป็นเรื่องความเท่าเทียมทางโอกาสที่ทุกคนได้รับเท่ากัน
“ใฝ่ความดี” คือ การฝึกให้คิดดี คิดบวก คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน เป็นคุณสมบัติที่เข้มแข็งของเยาวชนเพื่อที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรอันมีค่าของแผ่นดินต่อไป
จากนั้น ประยุทธ์ ถ่ายภาพร่วมกันกับเด็กๆและผู้มาร่วมฟังการกล่าวเปิดงานที่ห้องประชุมภายในตึกสันติไมตรี และเยี่ยมชมบูธกิจกรรมสีสันต่างๆภายในทำเนียบรัฐบาล