จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางรัก สาทร ปทุมวัน กล่าวว่า วันนี้ตนและ พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ได้ลงพื้นที่เขตปทุมวัน พบประชาชนเพื่อรับทราบปัญหา ซึ่งนอกจากปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัวแล้ว ปัญหารายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นปัญหาของคนไทยทั้งประเทศแล้ว ปัญหาของเขตปทุมวันยังมีปัญหาเฉพาะท้องถิ่นเช่น ปัญหาเรื่องอัคคีภัยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณบ่อนไก่ ที่มีประชากรหนาแน่น ซึ่งต้องหามาตรการในการป้องกันและระมัดระวังอย่างชัดเจน มีการฝึกการป้องกันอัคคีภัยอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ อีกทั้งจะต้องมีนโยบายในการจัดหาที่อยู่อาศัยในราคาที่ถูกเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่มีปัญหาที่อยู่อาศัยจากอัคคีภัย และต้องโยกย้ายจากที่อยู่อาศัยเดิม เป็นต้น
นอกจากนี้ เขตปทุมวันเป็นศูนย์กลางการเดินทางของรถไฟลอยฟ้าและรถไฟใต้ดิน ซึ่งมีราคาสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ของประชาชน แนวทางในอนาคตจะต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนลดลงและ เพื่อลดค่าครองชีพ อีกทั้งประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยจะมีประชากรผู้สูงอายุเป็นสัดส่วนถึง 20% ของประชากรทั้งหมดในเวลาอีกไม่กี่ปีนี้
ดังนั้นแนวทางการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร ทั้งการดูแล การรักษาพยาบาล ลดเวลาการรอคอยในการพบแพทย์ และรายได้เพื่อประคองชีวิต ต้องมีแนวทางที่ชัดเจนและทำได้จริง เพราะจากประวัติศาสตร์จะพบว่าพรรคการเมืองไหนจะหาเสียงอย่างไรก็ได้ แต่พรรคการเมืองที่ทำได้จริงคือพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
และที่สำคัญเขตปทุมวันเป็นพื้นที่ที่นักศึกษาและคนรุ่นใหม่ใหม่มาใช้ชีวิต พบปะสังสรรค์พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด และเป็นวิถีชีวิตและเป็นแหล่งสันทนาการของกลุ่มนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ ดังนั้น การที่จะต้องจัดทำสถานที่เพื่อให้มีการมั่วสุมทางด้านการพัฒนาความคิด เพิ่มความฉลาดและมีทิศทางสำหรับอนาคตจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องทำ การจัดทำ co-working space สำหรับให้เด็กรุ่นใหม่ ได้มาร่วมกันคิด ร่วมกันทำ สร้างธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ สร้างแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ โดยเปิดโอกาสและชักจูงให้ชาวต่างประเทศที่ฉลาด เก่ง และมีความชำนาญเข้ามาร่วมดำเนินการด้วย สร้างประเทศไทยให้เป็นชุมชนของคนเก่งๆ ฉลาดๆ คนหัวกะทิ เพื่อพัฒนาต่อไปเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในอนาคต โดยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการส่งเสริม และทำให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง โดยต้องมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายเพื่อรองรับธุรกิจอนาคตเหล่านี้ ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ที่มีความฉลาดให้ได้เป็นเศรษฐีและมหาเศรษฐีได้เป็นจำนวนมากในอนาคต อีกทั้งยังช่วยเพิ่มจีดีพีของไทยให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อลดสัดส่วนหนี้สาธารณะ และหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยให้มีสัดส่วนที่ลดลงได้ และยังจะเป็นการสร้างงานที่มีรายได้สูงจำนวนมาก เพิ่มงานเพิ่มรายได้ให้กับคนรุ่นใหม่ โดยอาจจะเริ่มโดยการพัฒนาการปรับเปลี่ยนระบบดิจิตอลในระบบรัฐ สร้างระบบ Blockchain และโยงเข้าสู่ภาคเอกชนให้เกิดเป็นจริงได้ เป็นต้น
หลายปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าประเทศไทยได้ล้าหลังไปมาก และมีปัญหาหลายด้าน ดังนั้น การต้องแก้ไขปัญหาจำนวนมากพร้อมไปกับการที่จะต้องพัฒนาและสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ให้กับนักศึกษาและคนรุ่นใหม่จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลในอนาคตจะต้องเร่งเข้ามาแก้ไขและปรับเปลี่ยนประเทศ เพื่อประเทศไทยจะไม่ตกยุคและล้าหลังเหมือนในปัจจุบัน และพรรคเพื่อไทยพร้อมและอาสาเข้ามาแก้ไขเพื่อยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของคนไทยทุกระดับชั้น