วันที่ 26 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเยือนประเทศกัมพูชาของนายกรัฐมนตรีว่า ในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้น จะไปเยือนกัมพูชาเป็นประเทศแรก เนื่องจากเป็นประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ดีในกลุ่มประเทศอาเซียนเราพยายามจะไปเยือนให้ได้มากที่สุด เพราะอยู่ใกล้กับเรา และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือนายกฯ ก็ต้องไปเยือนเพื่อเป็นการแนะนำตัว และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ส่วนการเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียนั้น ปานปรีย์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และประเทศซาอุฯ นั้นมีมานาน แต่ก็ถูกระงับไปชั่วขณะ แต่ตอนนี้กลับมามีความสัมพันธ์อีกครั้ง และตนเองก็ได้มีโอกาสพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของซาอุฯ ที่เวทีสมัชชาสหประชาชาติ เพื่อหารือระดับทวิภาคี โดยได้รับการตอบรับที่ดีมาก และเราก็พร้อมจะเดินทางไปเยือนซาอุฯ แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดวันอย่างเป็นทางการ แต่ในส่วนของซาอุฯ ที่สนใจนั้นคือ สนใจการลงทุนในประเทศไทย โดยเราจะมีการเตรียมการต่อไป
ขณะที่การเตรียมการลงสมัครคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ หรือ Human Rights Council (HRC)นั้น ปานปรีย์ กล่าวว่า เรื่องสิทธิมนุษยชนนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เป็นหนึ่งในเสาหลักของสหประชาชาติ และประเทศไทยเคยดำรงตำแหน่งประธาน HRC มาแล้ว ในปี 2012 ดังนั้นในปี 2025-2027 นั้น เราก็จะประสงค์ที่จะกลับเข้าไปเป็นสมาชิกอีกรอบ และตอนนี้เริ่มดำเนินการหาเสียง และให้ความสำคัญเรื่องสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นการจะเข้าไปดำรงตำแหน่งสมาชิก ถือเป็นผลดีกับประเทศไทย