วันที่ 1 ก.พ. สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ออกมายอมรับว่าเคยเข้าไปพบคณะทำงานของ สมศักดิ์ ในสมัยที่เป็น รมว.ยุติธรรม เรื่องปัญหากำไร EM ว่า ตนไม่ทราบ แต่ไม่ได้เข้ามาพบตน ทั้งนี้แต่ละกระทรวงมีงานมีโครงการต่างๆ เขาอาจจะไปเก็บข้อมูลหรือหาข้อมูล แต่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานของตน ตนไม่ทราบ เขาอาจจะไปพบ ใครต่อใครหรือคนรู้จักกันก็อาจจะไปเจอกันได้ คงไม่มีประเด็นหรือมีเรื่องอะไร

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการพาดพิงถึงผู้ใหญ่หลายคนในรัฐบาล จะกลายเป็นปัญหาให้กับรัฐบาลที่ต้องโดนตรวจสอบหรือไม่ สมศักดิ์ กล่าวว่า การตรวจสอบเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่การตรวจสอบด้วยความบริสุทธิ์จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่หากไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อให้ประเทศได้ประโยชน์ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง

เมื่อถามว่า ยศวริศ ระบุว่ากำลังถูกเกมการเมืองอยู่นั้น สมศักดิ์ กล่าวว่า เรามีวิจารณญาณที่จะพิจารณาว่า เรื่องของใครเป็นอย่างไร ก็พิจารณาดูเถอะ เราก็ฟังแต่คงมีความเห็นกันไม่ได้ เพราะไม่ได้ใกล้ชิดหรือพบปะพูดคุยกับเขา

บอกไม่ใช่เซียนกฎหมายไม่ขอทำนายอนาคตก้าวไกล

สมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีพรรคก้าวไกลนำมาตรา 112 มาหาเสียง จะส่งผลต่อกระทบต่อการเมืองหรือไม่ ว่า ตนไม่ใช่เซียนกฎหมาย เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว ประเด็นต่อเนื่องในเรื่องก็จะดำเนินการต่อไป และคนที่มีความเกี่ยวข้องหรือความเชี่ยวชาญก็คงจะไปดำเนินการต่อ 

ส่วนการจะแก้ไขมาตรา 112 นั้น สมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่จะพ่วงไปถึงเรื่องนิรโทษกรรมหรือไม่ตนไม่ทราบ 

เมื่อถามถึงกรณีนี้ จะส่งผลต่อคะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น สมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องถามคนที่มีความรู้สึกต่อเรื่องนี้ ตนเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ไม่เหมาะที่จะพูดเรื่องนี้ และเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่นำไปสู่จุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่เป็นเรื่องที่จะต้องติดตามต่อ ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่อไปบ้าง ตนไม่สามารถทายผลวันข้างหน้าได้ เพราะในเรื่องของกฎหมายต้องถามผู้เชี่ยวชาญ