ไม่พบผลการค้นหา
‘ณพลเดช’ ตอก ‘เสกสกล’ หาข้อมูลก่อนโว ‘ประยุทธ์’ แก้ยาเสพติดดีกว่า ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ ยัน ‘ทำสงครามยาเสพติด’ ไม่มีการฆ่าตัดตอนอย่างที่กล่าวหา เตือนใส่ร้ายพรรคอื่นระวังผิด กม.เลือกตั้ง

ณพลเดช มณีลังกา คณะทำงานศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ เสกสกล อัตถาวงศ์ ได้พาดพิง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าในยุคพรรคไทยรักไทย ทำสงครามกับยาเสพติด มีการฆ่าตัดตอน ใช้ศาลเตี้ย ราวกับว่าประเทศชาติบ้านเมืองไร้ซึ่งขื่อแป และอีกหลายประเด็นนั้น

1.ในความจริงในช่วงนั้น เสกสกล ก็เคยอยู่ในพรรคไทยรักไทยในช่วงที่มีนโยบายปราบปรามยาเสพติด แต่ไม่เคยแสดงความคิดเห็นที่เป็นการต่อต้านนโยบายดังกล่าวแต่อย่างใด เหตุใดจึงออกมาพูดจาใส่ร้ายโจมตีนโยบายที่ตนเองก็รู้เห็นมาโดยตลอดในตอนนี้ หรือเป็นเพราะ เสกสกล ย้ายสังกัดมาอยู่ภายใต้รัฐบาลนี้ จึงยอมที่จะหลับหูหลับตา พูดจาใส่ร้ายบิดเบือนข้อเท็จจริง ทักษิณ ซึ่งเป็นอดีตเจ้านายของ เสกสกล เพียงเพราะหวังประโยชน์ทางการเมืองใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ขอเตือน เสกสกลให้หยุดกล่าวหาและระมัดระวังในการพูดจาใส่ร้ายพรรคอื่น เพราะขณะนี้กำลังเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้ง การกล่าวหาบุคคลอื่นหรือพรรคการเมืองอื่นอาจมีความผิดได้ ทั้งนี้ในข้อเท็จจริงได้มีการตรวจสอบภายหลังว่า รัฐบาลไทยรักไทยไม่มีนโยบายฆ่าตัดตอนอย่างที่ถูกกล่าวหา 

2.การที่เสกสกลระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดโดยยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม นั้น ตนสงสัยว่า เสกสกล มีความสามารถในการแยกแยะความถูกผิดได้หรือไม่ เพราะการที่พลเอกประยุทธ์ เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีความผิดฐานเป็นกบฎ ซ้ำยังมีการเขียนกฎหมายนิรโทษกรรมผู้ทำรัฐประหาร มีการใช้คำสั่งมาตรา 44 ละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรมหลายครั้งใช่หรือไม่ สร้างความเสียหายทั้งที่นับเป็นมูลค่าได้และนับไม่ได้มากมายมหาศาล นี่หรือผู้นำที่มีหลักนิติรัฐ นิติธรรม นายเสกสกลควรหยุดพูดอ้างความชอบธรรมในประเด็นนี้ได้แล้ว 

3.การที่ เสกสกลระบุว่า พลเอกประยุทธ์ สามารถจัดการปัญหายาเสพติดได้ดีกว่ารัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น อยากถามเสกสกลว่า ไปเอาข้อมูลมาจากไหน หากไปดูสถิติการปราบปรามยาเสพติดที่รายงานโดย ปปส.มีข้อมูลการดำเนินการปราบปรามอย่างชัดเจน อยู่ ขณะที่มาตรการและการดำเนินการปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลไทยรักไทย และเพื่อไทย แตกต่างจากการดำเนินการของพลเอกประยุทธ์ โดยสิ้นเชิง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ ปัญหายาเสพติดได้ไม่นาน การดำเนินการไม่จริงจัง จึงยากที่จะประสบความสำเร็จ เหมือนที่เคยตั้งเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติมาแก้ไขปัญหาราคาพลังงาน ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ 

“ช่วงนี้เป็นช่วงหาเสียง เสกสกล ควรระมัดระวังการให้ข่าวหน่อย การพาดพิง สร้างความเสียหายให้กับพรรคอื่น มีความผิดใส่ร้ายโจมตี จริงๆ ไม่อยากตอบโต้ แต่ไม่อยากให้นายเสกสกลพูดไปเรื่อย ทำให้สังคมเข้าใจผิด หากแม้ไม่มีความรู้ ก็ควรไปหาอ่าน ไปศึกษาหาข้อมูล หรือรายงานที่เป็นทางการก่อนออกมาให้ข้อมูลด้วย ป้องกันสังคมสับสน” ณพลเดช กล่าว