การเมือง
'เสรีพิศุทธ์' ยี้ 'ครม.ประยุทธ์2' ชี้ไม่เข้าท่า ตั้ง 'คนโกง-ติดคุก' เป็นรัฐมนตรี
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า หน้าตาคณะรัฐมนตรีที่ออกมาล่าสุดเหมือนกับที่เป็นข่าว ซึ่งกว่าจะลงตัวในวันนี้ เกิดการทะเลาะเบาะแว้งแย่งชิงตำแหน่งกัน บางคนมีข่าวเรื่องเคยถูกต้องโทษ ถูกปลดออกจากราชการ บางคนมีข่าวว่ามีคดีโกงกรุงไทยที่คนอื่นติดคุกแต่ตัวเองกลับไม่ติดคุก บางคนเมื่อเป็นรัฐมนตรีไม่ได้สละตำแหน่งให้คนอื่นเป็น
ซึ่งการจะให้คนเป็นรัฐมนตรีบริหารประเทศชาติให้กับประชาชน ต้องใช้คนที่มีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต เพื่อทำงานให้กับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การจะใช้คนต้องให้เหมาะกับงาน มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง อย่างส่วนราชการเมื่อจะมีการแต่งตั้งคนดำรงตำแหน่งต่างๆ ต้องมีคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ ความประพฤติ ผลงานมาประกอบกัน แต่ ครม.ชุดนี้กลับไม่เข้าท่า จะต้องตอบคำถามให้กับประชาชนให้ได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำลังทำตัวเป็นผู้วิเศษ ปากเป็นกฎหมาย โดยออกมาพูดว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องโทษยาเสพติดไม่ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ซึ่งตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ บุคคลใดที่ถูกจำคุกคดียาเสพติด จะขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. หรือเป็นรัฐมนตรี แม้กฎหมายไม่ได้บอกว่าต้องติดคุกในไทยหรือต่างประเทศ เพียงแค่ติดคุกขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งตามข่าวระบุว่า ร.อ.ธรรมนัส ถูกจำคุกที่ออสเตรเลียเรื่องยาเสพคิด นายวิษณุ จะอ้างว่ากฎหมายไม่ห้ามไม่ได้
โดยการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีของพรรคฝ่ายค้าน มีการหารือกันอีกครั้ง ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจและตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ทั้งหมด ส่วนจะตรวจสอบไปถึงคนที่เป็นผู้แต่งตั้งบุคคลที่ไม่เหมาะสมหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่รับรองให้ ร.อ.ธรรมนัสเป็น ส.ส. ต้องตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน กกต.จะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ เพราะ ร.อ.ธรรมนัสเกี่ยวข้องกับหลายเรื่องทั้งคดีอุ้มฆ่า คดีโกง ซึ่งรวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะเสนอแต่งตั้งบุคคลใดๆด้วย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ขอฝากเรื่องใดไปถึงคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เพราะฝากแล้วจะไม่รับฟังอย่างแน่นอน โดยเชื่อว่าการบริหารประเทศหลังจากนี้จะเป็นเหมือนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ ครม.ต้องเร่งแก้ไขคือต้องแก้ไขตัวเองให้ได้ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ที่ต้องลาออก เพราะจะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย
ส่วนการที่ประธานสภาฯ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่าจะยังไม่กระทบกับการทำงานของพลเอกประยุทธ์เพราะต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาก่อน แต่การที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นทั้งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รับเงินเดือน ใช้อำนาจและกฎหมายในการบริหารประเทศ มีความชัดเจนว่าพลเอกประยุทธ์คือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
