น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำวันที่ 12 พ.ค. 2563 ว่า ครม.รับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอการปรับเปลี่ยนกรอบวงเงินร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2563 จากหน่วยงานต่างๆ มาไว้ที่งบกลาง เป็นจำนวน 88,452 ล้านบาท จากเดิมเมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา สำนักงบประมาณเสนอกรอบวงเงินร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563 ไว้ที่ 100,395 ล้านบาท หรือลดลง 11,945 ล้านบาท
พร้อมกับยืนยันว่า ไม่มีการตัดงบระมาณค่าใช้จ่ายตามสิทธิและสวัสดิการเพื่อสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และไม่มีการตัดลดงบประมาณจากบัตรทองอย่างที่สังคมมีความกังวล
โดยร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายพ.ศ. 2563 วงเงิน 88,452 ล้านบาทนี้ คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรประมาณวันที่ 29 พ.ค. 2563 หลังการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท , พ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงิน 5 แสนล้านบาท และพ.ร.ก.ให้อำนาจ ธปท.จัดตั้งกองทุนเสริมเสริมสภาพคล่องตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน (หุ้นกู้) วงเงิน 4 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่า จะเข้าสภาฯ ประมาณวันที่ 24-27 พ.ค. 2563
นอกจากนี้ ในการประชุม ครม. วันนี้ ยังมีมติเห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำ พ.ศ. 2564 วงเงิน 40,325 ล้านบาท เพื่อนำไปตั้งเป็นงบกลาง รายการใช้จ่ายฉุกเฉินเพื่อการบรรเทา แก้ปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2564 ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการรับฟังความคิดเห็น และคาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรช่วงระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.2563
โดย 5 หน่วยงานที่มีการโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2564 เข้ามาที่งบกลางมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ รัฐวิสาหกิจ 9,517 ล้านบาท, กระทรวงกลาโหม 8,112 ล้านบาท, หน่วยราชการที่ไม่ได้สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี 3,320 ล้านบาท, กระทรวงศึกษาธิการ 2,720 ล้านบาท และกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 2,117 ล้านบาท
"การตัดงบประมาณจากหน่วยงานต่างๆ ที่โอนมาไว้ที่งบกลาง เป็นการตัดจากส่วนงบจัดอีเวนท์ ประชาสัมพันธ์ เดินทางต่างประเทศและส่วนที่ไม่เร่งด่วน เพื่อนำมาใช้สำหรับเป็นงบกลางส่วนของรายจ่ายเพื่อบรรเทาแก้ไขปัญหาและเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19" น.ส.รัชดา กล่าว
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยปรับระยะเวลาตามกระบวนการจัดทำงบประมาณและอนุมัติงบประมาณ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :