ไม่พบผลการค้นหา
‘นอท กองสลากพลัส’ แจงยิบ หลัง ‘ประยุทธ์’ จ่อสอบเส้นทางการเงิน โชว์กำไรปี 65 กว่า 1.8 หมื่นล้านบาท แฉมีที่ปรึกษานักการเมืองอยู่เบื้องหลังคุ้ยข้อมูล

วันนี้ (30 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ บริษัทลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด ชั้น 12 A อาคาร เอส เอส พี ทาวเวอร์ ถนนเอกมัย กรุงเทพฯ พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท CEO กองสลากพลัส ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงเส้นทางการเงินและการเสียภาษี หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการหารือกับผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และเตรียมเชิญให้ ปปง., กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกรมสรรพากร ตรวจสอบภาษีและเส้นทางการเงินของกองสลากพลัส หลังนายพันธ์ธวัช ประกาศกำไรของบริษัทในปีนี้ว่าสูงถึง 1.8 หมื่นล้านบาท

โดย พันธ์ธวัช กล่าวว่า ประเด็นต่าง ๆ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตในการทำงานของบริษัทมีหลายเรื่อง ทั้งการรวบรวมลอตเตอรี่ของกองสลากพลัส ที่มีแหล่งมาจากตลาดสนามบินน้ำ ตลาดวังสะพุง และตลาดสี่แยกคอกวัว รวมถึงผู้อื่นที่ซื้อขายกันอยู่แล้ว โดยบริษัทจะซื้อทุกวันที่ 5 ของเดือน แต่จะได้ลอตเตอรี่ในวันที่ 6 ซึ่งต้นทุนในการซื้อของตนอยู่ที่ฉบับละ 98 บาท ถือว่าไม่ใช่นายทุนเพียงคนเดียวที่ได้กำไร

เพราะตนยังเป็นพ่อค้าที่ไปซื้อลอตเตอรี่มาจากผู้อื่นโดยไม่ได้แทรกแซงกลไกตลาด ตัวอย่างเช่น ผู้ค้าลอตเตอรี่ตามปั๊มน้ำมัน ก็รับจ้างจากผู้มีโควต้าซื้อสลากนำมาขาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการค้าลอตเตอรี่ที่มีมานานอยู่แล้ว เพียงแต่แผงตนเองอยู่บนโลกออนไลน์ อย่างไรก็ตาม การซื้อขายของตนนั้นอาจเข้าข่ายผิดเงื่อนไขตามสัญญาเรื่องขายยกเล่ม แต่ไม่ได้ผิดกฎหมาย เพราะตนไม่ได้ซื้อกับเจ้าของโควต้า 

LINE_ALBUM_221230_3.jpg

พันธ์ธวัช กล่าวว่า ประเด็นต่อมาคือการบริหารเงินสำหรับการซื้อขายลอตเตอรี่ต่องวด จะใช้เงิน 1,200 ล้านบาทในการซื้อสลาก โดยวันแรกจะได้ 6 ล้านใบ ตีเป็นเงิน 600 ล้านบาท พอขายได้ก็ใช้เงินนำมาหมุนเวียนซื้อขายกันไป ซึ่งแรกเริ่มที่เพิ่งเปิดบริษัทในปี 2563 เราซื้อได้ 2,285 ใบ ก่อนจะเพิ่มขึ้นจนตนต้องนำรถและบ้านไปจำนองเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในบริษัท ก่อนมีหุ้นส่วนเข้ามาร่วมลงทุนจนเติบโตเช่นทุกวันนี้ เปรียบเทียบได้กับร้านสะดวกซื้อที่มีผู้ต้องการนำสินค้าไปฝากขาย ทำให้มีลูกค้าที่มีสลากในมือ นำมาฝากขายกับตน ซึ่งงวดล่าสุดมีสลากทั้งหมด 13 ล้านฉบับ

พันธ์ธวัช กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่นายทุนเดิมที่ถอนตัวออกเพราะหมดสัญญารายปีแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากเขาได้ขอเพิ่มดอกเบี้ย แต่ตนไม่ให้ เขาจึงไม่ต่อสัญญา โดยตนถือหุ้น 94% และหุ้นส่วนถืออีก 4% ยืนยันว่าตนจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มจากกำไรสุทธิที่บริษัทได้ รวมถึงภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยในครึ่งปี 2565 ที่ผ่านมา เสียภาษีไปแล้ว 9 ล้านกว่าบาท แต่ก็มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ทั้งที่บริษัทได้กำไร 1.8 หมื่นล้านบาท เหตุใดจึงเสียภาษีน้อย เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวเพิ่งมาเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และแม้ว่ากำไรที่ได้จะตัวเลขสูง แต่คาดว่าหลังคำนวณมาแล้วกำไรสุทธิจะตกที่ 400 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทตนยังเสียค่าปรับ กรณีชำระภาษีช้าอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทตนเพียงเจ้าเดียวที่ยื่นชำระภาษีมูลค่าเพิ่มรวมถึงค่าปรับ ซึ่งปกติการจำหน่ายสลากกินแบ่งจะได้รับการยกเว้นตามกฤษฎีกาที่ประกาศไว้ แต่เนื่องจากบริษัทตนชำระให้เพราะมีค่าบริการต่างๆ กับลูกค้า ส่วนเงินรางวัลของกองสลากพลัส จะได้รับการชำระภาษี 0.5% กับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนนำไปให้ลูกค้าเท่านั้น จึงไม่ต้องการแสดงรายการภาษีประจำปี ยืนยันไม่มีการจ้างหน้าม้ามารับรางวัล เพราะอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายได้

LINE_ALBUM_221230_0.jpg

สำหรับผู้ร่วมถือหุ้นบริษัทมี จตุภัทร บุญสุวรรณ ชัชวงศ์ ธรรมราภา และ ทนายความของตน โดยก่อนหน้านี้มีลูกชายของ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ซึ่งเป็นยศ พ.ต.อ. ในขณะนั้น ที่เคยร่วมถือหุ้นช่วงก่อตั้งบริษัท หลังไปรู้จักกันขณะเข้าร่วมการอบรมด้านธุรกิจ แต่ครอบครัวเกิดความไม่สบายใจเนื่องจากมีการปราบปรามของรัฐบาลจึงขอให้ถอนตัวออกภายหลัง ยืนยันไม่มีผู้อยู่เบื้องหลัง ทุกวันนี้ติดต่อกันเพียงให้ฝากซื้อลอตเตอรี่เท่านั้น

ต่อกรณีที่หน่วยงานรัฐเตรียมตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัท ตนเตรียมตัวมาตั้งแต่วันแรก การให้ข่าวครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ออกมาพูดทุกอย่าง เพราะตนก็เหนื่อยที่จะตอบคำถามซ้ำ ตนเชื่อว่า มีที่ปรึกษานักการเมืองรายหนึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการขุดคุ้ยข้อมูลต่างๆ ของตน ทั้งที่ครั้งหนึ่งตนก็เคยให้ความช่วยเหลือบุคคลนี้ไว้