ไม่พบผลการค้นหา
อคส.เชิญ 11 ผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลข้าวสารในสต็อคของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2 /2560 ประชุมชี้แจงเงื่อนไขสัญญาและมาตรการควบคุมการขนย้ายข้าวสาร ก่อนลงนามในสัญญา ปริมาณกว่า 5 แสนตัน มูลค่ากว่า 2.5 พันล้านบาท


170147.jpg

พล.ต.ท. ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า วันนี้ เมื่อเวลา 13.30 น. ได้ เชิญผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลข้าวสารในสต็อคของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/2560 จำนวน 11 ราย ได้แก่ บจก.วี.ซี.เอฟ.กรุ๊ป , บจก.กาญจนาอาหารสัตว์ , บจก.มหาทรัพย์ฟีด , บจก.เอส.พี.เอ็ม.อาหารสัตว์/หจก.โรงสีทรัพย์แสงทอง 2550 , บจก.จิชัย โปรดิวซ์ , บจก.เอพีเอ็มอะโกร , บมจ.พี.เอส.ซี.สตาร์ซ โปรดักส์ , บจก.เชียงรายกิจศิริไซโล 1995 , หจก.เฮงเพิ่มพูน , บุรีรัมย์สหสินข้าวไทย  

โดยมี นางอินทรา โภคปุณยารักษ์ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ อคส.ที่ในส่วนที่กี่ยวข้อง รวมทั้งเชิญผู้แทนจากหน่วยงานได้แก่ อตก. , กรมวิชาการเกษตร , กระทรวงอุตสาหกรรม , คสช. , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจทางหลวงเข้าร่วมประชุม เพื่อชี้แจงเงื่อนไขสัญญา และวางมาตรการในการควบคุมในการขนย้ายออกจากคลังสินค้าต้นทางไปยังคลังสินค้าปลายทาง ก่อนลงนามในสัญญา และลงพื้นที่ตรวจสอบคลังสินค้าปลายทางต่อไป

ทั้งนี้ ได้กำหนดขั้นตอนและมาตรการในการควบคุมการขนย้ายข้าวออกจากคลังสินค้าต้นทางไปจนถึงคลังสินค้าปลายทางที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมของผู้ชนะการประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐจำนวน 57 คลัง ใน 23 จังหวัด ตามที่ กรมการค้าต่างประเทศ เปิดประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภค เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา โดยได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแลการดำเนินการระบายข้าวสารในสต็อคของรัฐเพื่อการบริโภคเป็นการทั่วไปและการระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมซึ่งมี นางอินทิรา โภคปุณยารักษ์ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า เป็นประธานกรรมการ และผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ อคส.และผู้แทนจากหน่วยงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อม ก่อนลงนามในสัญญา สำหรับคลังสินค้าที่ปลายทาง จะต้องติดตั้งกล้อง CCTV และต้องรายงานข้อมูลสินค้า ผ่านเว็บไซต์ www.pwo.co.th เพื่อรายงานให้เจ้าหน้าที่ อคส.รับทราบ และเมื่อขนย้ายข้าวถึงสถานที่ปลายทางแล้ว อคส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสุ่มตรวจปริมาณข้าว อีกครั้งว่าตรงตามปริมาณการขนย้ายหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หาก อคส.ตรวจพบว่าผู้ซื้อไม่นำเข้าสารเข้าสู่กระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมตามที่ได้แจ้งไว้ในวัตถุประสงค์ที่ขอซื้อจะต้องชำระค่าปรับ 25% ของมูลค่าข้าวสารที่ไม่ได้นำเข้าสู่กระบวนการอุตสาหกรรม และหาก อคส.เลิกสัญญา ผู้ซื้อจะต้องเสียค่าปรับ 25% ของมูลค่าปริมาณข้าวสารที่ยังไม่ได้รับมอบและขนย้าย รวมทั้งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งทางแพ่งและอาญาด้วย ในการกำหนดขั้นตอนและมาตรการการควบคุม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้