ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่ ปราศรัยว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะจะแก้ พ.ร.บ.ปปช. มาตรา 49 และ 58 ให้สิทธิประชาชนที่เป็นผู้เสียหายโดยตรง ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเองได้เพื่อเปิดช่องทางให้ประชาชนฟ้องร้องดำ้นินคดีกับผู้สั่งการสลายการชุมนุมจนทำให้คนเสื้อแดงเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเมื่อปี 2553 ระบุว่า
ผมเป็นคนเสื้อแดง หน้าที่ติดตาม ทวงถามความยุติธรรมมันติดอยู่กับตัว และก็ทำเต็มกำลังมาตลอดที่ไม่เคยทำคือ การเอามาประกาศ โฆษณา หรือหาเสียง เพราะสุดใจของเรื่อง คือเลือก ไม่เลือกก็จะทำ
ผมประกาศบนเวทีปราศรัย ว่าเพื่อไทยจะแก้ พ.ร.บ.ปปช. มาตรา 49 และ 58 ให้สิทธิประชาชนที่เป็นผู้เสียหายโดยตรง ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเองได้แล้วแต่กรณี หากยื่นเรื่องแล้ว ปปช.ไม่รับ หรือรับแต่ตีตกยกคำร้อง เพิ่มบทเฉพาะกาลให้มาตราที่แก้ไขเพิ่มเติมมีผลไปถึงคดีที่เกิดขึ้นก่อนมีการแก้ไขกฎหมายนี้ด้วย
ผลก็คือ ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปี 2553 สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน ฟ้องผู้สั่งการได้ทันที
ผมคุยกับฝ่ายนโยบาย ทีมกฎหมายอยู่ระยะใหญ่ๆ แล้ว ตอนแรกเรื่อง ICC แต่ห่วงว่าหลักเกณฑ์มีเยอะ ไม่ง่ายที่เรื่องของเราจะเข้าเงื่อนไข ระยะเวลาก็คงอีกยาว จึงพยายามหาแนวทางที่ชัด ตรง และหวังผลได้มากกว่า และพบว่าต้องใช้วิธีนี้
ช่องทาง ICC ก็ไม่ได้ปิด แต่ที่จะทำทันทีคือแก้ พ.ร.บ.ปปช.
ตั้งใจว่าตั้งรัฐบาลได้ก็ลงมือ แต่พี่น้องหลายคนถามมา เพราะได้ยินจากบางเวทีว่ามีแนวทางตามคดีเสื้อแดง ทำไมไม่ได้ยินจากเพื่อไทยหรือจากผม จึงต้องพูดเพื่อส่งกำลังใจถึงกัน ว่าเรายังมีกันและกันอยู่เสมอ
พูดแล้วก็มีคนแซะว่าพูดช้า ก็สงสัยว่าทำไมแซะเร็ว และจะแซะกันเอาอะไร เพราะผมคิดแต่ว่าจะทำ ไม่เคยคิดจะพูด
รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีมติครม.เยียวยาผู้สูญเสียทุกฝ่ายภายใน 7 เดือนแรก อำนวยความยุติธรรมจนคดีถึงศาล เห็นชอบให้สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ดำเนินการเรื่องประกันตัวผู้ต้องขังคดีเคลื่อนไหวทางการเมือง ส.ส.เพื่อไทยยกขบวนขึ้นศาลใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหา คดีที่ตัดสินแล้ว หรือไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันซึ่งเป็นอำนาจศาล ก็มีการเปิดเรือนจำแยกต่างหากสำหรับคดีการเมือง
ผมไม่ได้อยู่ห่างกระบวนการเหล่านี้ แต่เมื่อถูกพูดถึงว่าไม่ทำอะไรเลย ทอดทิ้งชะตากรรมคนเสื้อแดง ก็ไม่เคยตอบโต้ เพราะหน้าที่ของผมต่อเรื่องนี้คือทำ ไม่ใช่พูด
ออมกำลังไว้ทำตามสิ่งที่เชื่อดีกว่า จะเอายังไงก็ว่าไป แต่อย่าถึงขั้นพยายามเอาความเป็นเสื้อแดงออกจากตัวตนผมเลย
เสียเวลา