ไม่พบผลการค้นหา
'ส.ส.เพื่อไทย' พร้อมลงชื่อแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช. 'ณัฐวุฒิ' เตรียมไปเยือน 'ก้าวไกล' ชวนร่วมผลักดันผ่านสภา เปิดทางทวงคืนความยุติธรรมผู้เสียหาย จากเหตุสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง ปี 53 เผยความพร้อม ‘เปิดสภา’ ยื่นเรื่องทันที

วันที่ 11 ก.ค. 2566 ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงความคืบหน้าในการเสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อเปิดทางคืนความยุติธรรมให้ผู้สูญเสียจากการสั่งให้สลายการชุมนุมปี 2553 ว่า พรรคเพื่อไทยประกาศเป็นนโยบายตั้งแต่ช่วงหาเสียงแล้วว่าจะดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่งในช่วงหาเสียงตนก็ได้เปิดเผยร่างฯ นี้ต่อสื่อมวลชน หลังเลือกตั้งได้ส่งร่างฯ เวียนไปให้กับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่น้อยกว่า 30 คนได้พิจารณา หากใครมีข้อเสนอหรือปรับแก้ เมื่อเปิดประชุมสภาก็จะนำ ร่างฯ ที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ลงนามร่วมกันยื่นต่อประธานสภาทันที โดยตั้งใจว่าในสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปที่พรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล เพื่ออธิบายเนื้อหาสาระของร่างแก้ไขกฎหมายฯ นี้ พร้อมเชิญชวนสมาชิกพรรคก้าวไกลร่วมกันผลักดันด้วยเสียงข้างมาก ให้ผ่านสภาออกมาบังคับใช้.

“ผมไม่เคยสิ้นหวังเลย เพราะถ้าผมสิ้นหวังก็เท่ากับว่าผมทอดทิ้งความหวังของพี่น้องที่ร่วมต่อสู้กับผมมา วันนี้จริงอยู่ที่บางคนบอกว่า คนเสื้อแดงอาจจะเป็นผู้สนับสนุนของพรรคการเมืองมากกว่าหนึ่งพรรค อาจจะสนับสนุนพรรคการเมืองเดียวกันหรือคนละพรรคกับผมก็ได้ เรื่องนั้นผมเคารพในข้อเท็จจริง เคารพในการตัดสินใจ แต่ต่อให้ผมเป็นคนเสื้อแดงคนสุดท้าย ผมก็จะต้องทำสิ่งนี้ ผมไม่มีวิธีการอื่นนอกจากเดินหน้าไปตามกระบวนการยุติธรรม ให้มันถึงที่สุด ให้ประวัติศาสตร์มันได้บันทึกว่าเรื่องนี้มันจบลงอย่างไร และกระบวนการยุติธรรมทุกช่องทางที่ผมพยายามไป ญาติผู้เสียชีวิต นักวิชาการ ทนายความ และอีกหลายต่อหลายคน ก็ทำงานคู่ขนานกัน ช่วยกันเพื่อให้ได้คำตอบ” ณัฐวุฒิ กล่าว 

ณัฐวุฒิ กล่าว เรื่องนี้จะต้องมีคำตอบกับพี่น้องประชาชนให้ได้ เมื่อเกิดการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ความรับผิดชอบจะต้องไปถึงระดับไหน ชั้นไหน กรณีเหตุการณ์ 10 เมษายน 2553 มีการเดินหน้าสลายการชุมนุมจนถึงเวลากลางคืน ซึ่งหลักสากลจะไม่ทำกัน เพราะปกติการสลายการชุมนุมจะทำกันในเวลากลางวันในช่วงที่ทัศนวิสัยเปิด แต่วันนั้นพวกเราเรียกร้องว่าให้หยุดการกระทำก่อนเพราะมืดแล้ว มันอันตราย กลับไม่มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติการณ์ใดๆ มีการประกาศเขตกระสุนจริง ใช้ปืนติดลำกล้องยิงระยะไกลเป็นครั้งแรกในโลกที่รัฐใช้วิธีนี้ในการชุมนุมทางการเมืองของประชาชน ส่วนการกล่าวหาผู้ชุมนุมในเรื่องชายชุดดำ ขณะนี้ทุกคดีคนที่ถูกจับแล้วถูกกล่าวหาว่าเป็นชายชุดดำ ศาลก็พิพากษาถึงที่สุดยกฟ้อง นี่คือข้อเท็จจริง