ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ตอบไม่ได้ 'ประวิตร - อนุพงษ์' ติดโผ ครม.ใหม่ บอกยังไม่ใช่นายกฯคนใหม่ เปรยเบื่อข่าวต่อรองจัดเก้าอี้ รมต. ลั่นตัวเองยังไม่ได้เป็นนายกฯ ชม สนช. อยู่มา 5 ปี คลอดกฎหมายกว่า 500 ฉบับ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกระแสข่าวการจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยมีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย อยู่ด้วยหรือไม่ ว่า ตนตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ใช่นายกรัฐมนตรี ซึ่งคนที่จัดตั้งรัฐบาลและครม. คือ นายกรัฐมนตรี คนใหม่ ขณะนี้ตนยังไม่ได้เป็นจึงไม่สามารถพูดอะไรได้ ทุกอย่างเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี คนใหม่ที่จะมาตามขั้นตอนโดยจะมีการคัดเลือกหลังจากเปิดสภาไปแล้ว และตอนนี้ยังไม่สามารถตอบแทนใครได้

ส่วนที่ขณะนี้ยังไม่ทันตั้งรัฐบาลแต่กลับมีเรื่องต่อรองเก้าอี้และโจมตีนั้น ตนเองก็รู้สึกเบื่อหน่าย และย้ำว่าตนยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเชื่อว่าการตั้งรัฐบาล นักการเมือง และพรรคการเมืองดำเนินการอยู่แล้ว ตนให้เกียรติทุกคน เพราะได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน จึงเคารพเสียงของประชาชน และให้เกียรติกับนักการเมืองทุกคน ทั้งนี้ หากพูดกันไปกันมา จนเลวร้ายไปทั้งหมดก็ไม่เกิดอะไรดีขึ้นมาเลย รวมถึงประเทศก็ไม่ได้อะไร ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่มีความสุข ขณะที่ต่างประเทศก็ขาดความเชื่อมั่น ตนจึงไม่รู้ว่าเสนอข่าวกันไปทำไม ทั้งคนนั้นคนนี้พูด อย่างเหมือนตีลูกปิงปองที่ตีกันไปมา ท้ายที่สุดก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ เตรียมร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ ฐานที่ยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ พลเอกประวิตร และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้ามาร่วมพิจารณาจัดตั้งรัฐบาล ว่า ใครอยากร้องก็ให้ร้องไป ตนไม่ได้ห้าม แต่ต้องดูข้อเท็จจริงและกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมามีการร้องหลายกรณีตนไม่เคยไปตอบโต้ แต่ให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ขออย่าทำให้บ้านเมืองเสียหาย โดยเฉพาะการพูดกันไปมา สื่อเองอย่าไปขยายความมากนัก เพราะหลายคนไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่กลับวิพากษ์วิจารณ์ต่อกัน และเชื่อกันไปมา จนทำให้วุ่นวายไปหมด ย้ำว่าตนและรองนายกรัฐมนตรี ยังไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลกับใคร เพราะยังไม่ได้เป็นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี และขณะนี้ เป็นเรื่องของพรรคการเมือง จึงขอให้เกียรติกับพรรคการเมืองด้วย เชื่อว่าหลายคนมีความตั้งใจในการแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง ซึ่งตนได้รับฟังแนวคิดและนโยบายมา ก็เห็นว่าเป็นเรื่องดีๆทั้งนั้น ดังนั้นก็สุดแล้วแต่ประชาชน และสุดแล้วแต่การประชุมทั้ง 2 สภา 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า ตนขอร้องอย่างเดียว วันนี้เราทำอะไรก็ได้อย่างนั้น จะเขียนเฟซบุ๊กหรือเขียนโซเชียลให้รุนแรง ชมหรือว่ากันไปมาก็ไม่เกิดอะไรกับประเทศเลย แม้กระทั่งการเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตย ซึ่งทุกคนคาดหวังว่าเราต้องมีรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลหน้าต้องเป็นรัฐบาลที่ต้องทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เพราะทุกคนได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน จึงคิดว่าทุกคนตั้งใจ และคิดใหม่ทำใหม่ให้ได้ เหมือนที่เราพยายามทำมาตลอด 5 ปี และไม่อยากให้หลายอย่างเกิดขึ้นแบบเดิมๆอีก ผมไม่เคยไปให้ร้ายใคร และคิดว่าทุกคนมีความตั้งใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนให้เกียรติทุกท่าน

ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่การวิพากษ์วิจารณ์รายชื่อส.ว.ที่มองว่าเป็นคนใกล้ชิดนายกฯและพล.อ.ประวิตร จึงมองว่าไม่ต่างจากสภาผัวเมีย โดยพล.อ.ประยุทธ์ หันกลับมาตอบว่า 5 ปีที่ผ่านมาเทียบกับก่อนหน้านั้นว่าทำได้มาน้อยแค่ไหน ซึ่งออกกฎหมายมากว่า 500 ฉบับแล้ว และก่อนหน้าที่ออกมาได้กี่ฉบับ และได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปทันที

'ประวิตร' ย้ำมีซี้คนเดียวติด ส.ว. งงถูฏถามนายทหารติดโผ ส.ว.

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปฏิเสธตอบคำถามกรณีรายชื่อส.ว.ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษามีสัดส่วนอดีตนายทหารจำนวนมาก เมื่อถามว่าส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิดท่านทั้งนั้น พล.อ.ประวิตร ย้อนถามกลับสื่อมวลชนด้วยเสียงสูงว่า “ที่ไหน” 

สื่อมวลชนจึงตอบกลับว่า พล.อ.นพดล อินทปัญญา เพื่อนสนิท พล.อ.ประวิตร ตอบกลับว่า “แค่คนเดียว”

เมื่อถามย้ำว่ามีหลายคน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็เป็นคนเก่า” เมื่อถามอีกว่า พรรคการเมืองรณรงค์ปิดสวิต ส.ว. ในการเลือกนายกฯ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามดังกล่าวและขึ้นรถออกไปทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง