นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค.2562 จะออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เพื่อให้ผู้ประกอบการมายื่นขอจดทะเบียนคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวตรีฟันด์) ให้กับนักท่องเที่ยว โดยจะเปิดเป็นการทั่วไปทั้งประเทศ หลังจากที่กรมสรรพากรนำร่องที่ผู้ประกอบการ 5 ราย รวม 18 จุด ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561- ก.ย. 2562 และได้รับผลตอบรับดี ช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และมีผู้ประกอบการอีกหลายรายสนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
ทั้งนี้จากการนำร่องให้ผู้ประกอบการ 5 ราย ทำจุดคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยว พบว่า ร้านค้าในย่านการค้าขายสำคัญที่ทำแวตรีฟันด์ได้ มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน นอกจากนี้ ยังเกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่รอบร้านค้าเพิ่มขึ้นกว่าร้อย 60 และในรัศมี 1 กิโลเมตรโดยรอบร้านค้ามียอดค้าขายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20
นายเอกนิติ กล่าวว่า ในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาขอคืนแวต รวม 2.7 ล้านคน มียอดการใช้จ่ายที่หมุนเวียน 5 หมื่นล้านบาท ดังนั้นถ้าใช้สมมติฐานเดียวกัน ถ้าเปิดแวตรีฟันด์ในเมือง เป็นการทั่วไปจะช่วยเพิ่มยอดขายอีกร้อยละ 10 และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวดีขึ้น
สำหรับคุณสมบัติผู้ประกอบการที่จะมายื่นขอแวตรีฟันด์ ยังเหมือนเดิม คือ เป็นผู้ประกอบการไทย มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 25 ล้านบาท เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีแวต เป็นผู้ประกอบการที่ระบุไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิชัดเจนว่ามีการดำเนินธุรกิจเพื่อเป็นตัวแทนการขอคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยว สามารถคืนแวตให้นักท่องเที่ยวในเขต กทม.และปริมณฑลได้ มีระบบไอทีที่เชื่อมต่อกับระบบของกรมสรรพากร และต้องเสนอจุดที่คืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยวไม่เกิน 3 จุด
นอกจากนี้ กรมจะนำระบบบล็อกเชนจะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก โดยเชื่อมโยงระบบบล็อกเชน โมบายแอพลิเคชัน ระบบยืนยันตัวตนของนักท่องเที่ยว รวมถึง e-Tax Invoice ของร้านค้าเพื่อใช้ในระบบภาษี มาเชื่อมต่อกับกระบวนการต่างๆในประเทศ และระบบการชำระเงินต่างประเทศ เช่น อาลิเพย์ วีแชต วีซ่า และมาสเตอร์ เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ขอคืนภาษีและรับภาษีคืนได้ใน 3 วันทำการจากปกติ 34 วัน