นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์แถลงผลการประชุมทีมกฎหมายเห็นว่า ควรส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยพบประเด็นว่า 1) แม้รัฐธรรมนูญปี 2560 ฉบับปัจจุบันจะรับรองอำนาจหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ไว้ แต่ก็ไม่สามารถใช้ออกคำสั่ง ที่ละเมิด รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งผ่านการออกเสียงประชามติได้ และไม่ได้ใช้เพื่อการปฏิรูปและรักษาความสงบตามเงื่อนไขที่มาตรา 44 กำหนดไว้ ซึ่งคำสั่งดังกล่าวไม่ได้เป็นตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย
2) คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับนี้ เข้าข่ายสร้างภาระเกินจำเป็นให้กับสมาชิกพรรคการเมืองกว่า 4 ล้านคน ที่ต้องทำหนังสือต่อหัวหน้าพรรคการเมือง เพื่อยืนยันสถานะความเป็นสมาชิกพรรคภายใน 30 วัน พร้อมหนังสือรับรองคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ จากหน่วยงานต่างๆ อาทิ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศาลยุติธรรม ศาลล้มละลาย และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 18 หน่วยงาน และถ้าหากไม่สามารถยืนยันได้ในกรอบเวลา ก็จะพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
3) การออกคำสั่ง คสช. เพื่อแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ไม่ได้รับฟังความเห็นจากประชาชน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดเงื่อนไขไว้ และถือเป็นการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอนในรัฐธรรมนูญ
4) แม้คำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ฉบับนี้ มีนัยยะ ต้องการให้สมาชิกพรรคการเมือง มีเวลาทบทวน ตัวเอง แต่พรรคการเมืองยังไม่สามารถประชุมเพื่อกำหนดนโยบายหรือตัวผู้บริหารพรรคได้ สมาชิกพรรคจึงไม่สามารถตัดสินใจเลือก หรือยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคได้
และ 5) เนื้อหาสาระในคำสั่งฉบับนี้ เข้าข่าย เลือกปฏิบัติ ไม่ได้สร้างความเท่าเทียมระหว่างพรรคการเมืองใหม่กับพรรคการเมืองเก่า
พร้อมกันนี้ นายวิรัตน์ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (9 ม.ค.) จะนำข้อสรุปของทีมกฎหมาย เข้าหารือกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อตัดสินใจว่าจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หรือไม่ โดยเบื้องต้นแล้วคิดไว้ 2 ทาง คือ สามารถยื่นในนามพรรคผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินตามช่องทางปกติ และสามารถยื่นส่วนบุคคลต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง ในกรณีของสมาชิก พรรคที่ถูกละเมิดสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ