หลังจากบ่ายวันนี้ (13 มี.ค.) ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 652/2559 ระหว่าง บริษัท ไทยทีวี จำกัด (ผู้ฟ้องคดี) กับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กับพวกรวม 2 คน เป็นผู้ถูกฟ้องคดี ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่ง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่)
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ตามที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาออกมาในวันนี้ แยกได้เป็น 3 เรื่องหลัก คือ หนึ่ง สิทธิบอกเลิกสัญญา ซึ่งขณะนี้ มีคำสั่งศาลชัดเจนแล้วว่า สามารถทำได้ และหลังจากนี้ หากมีผู้ประกอบการมายื่นเรื่องนี้ สำนักงาน กสทช. ก็จะมีสามารถใช้คำสั่งศาลเป็นบรรทัดฐานได้
ประเด็นที่สอง คือ การเรียกสิทธิเงินค่าประมูล และเงินค้ำประกันสัญญา (แบงก์ การันตี) ศาลปกครองการได้มีคำพิพากษาว่า กสทช. สามารถเรียกค่าประมูลในงวด ที่ 1-3 ได้ เพราะเป็นส่วนที่เกิดขึ้นก่อนบอกเลิกสัญญา ส่วนงวดที่ 4-6 ต้องคืนให้ผู้ประกอบการต่อไป เพราะเป็นส่วนที่เกิดขึ้นหลังบอกเลิกสัญญาแล้ว
ส่วนประเด็นที่ สาม เรื่องที่ผู้ประกอบการเรียกค่าเสียหายกับ กสทช. นั้น เป็นความเสียหายจากการดำเนินกิจการ ศาลเห็นว่า ไม่สามารถเรียกค่าเสียหายจาก กสทช. ได้
นายฐากร ระบุว่า มีความพึงพอใจต่อคำพิพากษาวันนี้ เพราะช่วยให้ทางออกแก่ผู้ประกอบการทีวีทุกช่อง รวมถึงสำนักงาน กสทช. ที่ทำให้มีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนจะมีการยื่นอุทธรณ์หรือไม่นั้น ต้องรอการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. ที่จะมีในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.) ซึ่งเป็นวาระปกติก่อน
"ผมพึงพอใจในคำพิพากษาศาลปกครองกลาง และสำนักงาน กสทช. จะได้ยึดเป็นบรรทัดฐานได้ แต่บอร์ดจะว่าอย่างไร ต้องรอการประชุมวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.)" นายฐากร กล่าว
ส่วนเรื่องที่มีการฟ้องร้องในประเด็นการขยายโครงข่ายไม่เป็นไปตามที่สัญญาระบุนั้น สำนักงาน กสทช. ขอเวลาศึกษาในรายละเอียดและคาดว่าจะมีอุทธรณ์ในประเด็นนี้ต่อไป
ส่วนศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 652/2559 ที่นางพันธุ์ทิพา ศกุนต์ไชย หรือเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ยืนฟ้อง กสทช. มีใจความว่า ให้ผู้ถูกฟ้องทั้งสองคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารที่ผู้ฟ้องคดีวางเพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตของงวดที่ 3 และงวดที่เหลือ มูลค่าวรวมกว่า 1,500 ล้าบาท คืนให้แก่ผู้ฟ้องคดี ภายใน 60 วันนับตั้งแต่คดีถึงที่สุด คืนค่าธรรมเนียมศาลบางส่วนตามส่วนของการชนะคดีให้แก่ผู้ฟ้องคดี ส่วนคำขออื่นให้ยก
หลังศาลพิเคราะห์เห็นว่า ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิบอกเลิกการให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลทั้งสองช่องรายการโดยชอบแล้ว ผู้ฟ้องย่อมไม่มีหน้าที่ที่จะต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในงวดหลังจากผู้ฟ้องคดีบอกเลิกสัญญา
ในส่วนที่ผู้ฟ้องคดียังประกอบกิจการก่อนการขอเลิกการประกอบการ ผู้ฟ้องจึงมีหน้าที่ต้องชำระค่าใช้คลื่นความที่ทั้งสองช่องรายการให้แก่กสทช. ส่วนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในงวดหลังจากผู้ฟ้องบอกเลิกสัญญา ผู้ฟ้องย่อมไม่มีหน้าที่ต้องชำระ และกสทช.ต้องคืนหนังสือค้ำประกันธนาคารในส่วนที่เกินกว่าจำนวนที่ผู้ฟ้องต้องชำระในงวดที่ 1 และงวดที่ 2 แก่ผู้ฟ้องคดี
อย่างไรก็ตามความเสียหายที่ผู้ฟ้องคดีได้รับ ล้วนเกิดจากการดำเนินธุรกิจทั่วไป ผู้ฟ้องจึงไม่อาจเรียกค่าเสียหายกับ กสทช.ได้
อ่านเพิ่มเติม
'ติ๋ม ทีวีพูล' โล่งใจ ศาลปกครองชี้ กสทช. ผิดสัญญา ได้คืน 1,500 ล้าน
13 ช่องทีวีดิจิทัลขอยืดเวลาจ่ายค่าไลเซนส์