พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดนครปฐม คิกออฟโครงการไทยนิยมยั่งยืน ที่อำเภอนครชัยศรี จ.นครปฐม รับฟังความคิดเห็นประชาชน พร้อมตรวจเยี่ยมพื้นที่ ที่ประสบความสำเร็จ ในการน้อมนำแนวพระราชดำริศาตร์พระราชา มาประยุกต์กับเทคโนโลยีลดต้นทุนผลิตข้าว ซึ่งชาวบ้านที่นี่ มีการปรับเปลี่ยนปลูกข้าวอินทรีย์จากเดิมที่มีรายได้เกวียนละ 8,000 บาท เป็น 80,000 บาท และหากมาแปรรูป เช่นเอามาทำข้าวตัง จะได้ราคา 800,000 บาทต่อเกวียน
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับชาวบ้านว่าเกษตรจะต้องมีการปรับตัว เพิ่มรายได้เสริมนอกจากการทำเกษตรอย่างเดียว โดยให้มีการแปรรูปสินค้าเกษตร ทำสินค้าโอทอป และท่องเที่ยวชุมชน
โดยโครงการไทยนิยมยั่งยืน จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ ของชาวบ้านดีขึ้น แต่อย่าเลือกรัฐบาลว่าเป็นของใครของมัน ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นปัญหาแบบเดิม ต้องเลือกรัฐบาลที่เป็นของปวงชนชาวไทย ส่วนเลือกตั้งก็ขอให้ว่าไปตามกฏหมาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า สินค้าเกษตรเป็นปัญหาการเมือง ทุกคนต้องช่วยกัน ซึ่งชาวบ้านที่อำเภอนครชัยศรี ส่วนใหญ่ปลูกมะพร้าว ทำนาข้าว เลี้ยงปลา ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะส่งเสริมให้ปลูกข้าว กข.43 เพิ่ม เพราะเป็นพันธุ์ข้าวที่วิจัยมาใหม่ และได้รับความนิยม เช่นเดียวกับมะพร้าวน้ำหอม จะให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาดู แต่อย่าขายแพง พร้อมพูดติดตลก ให้นำน้ำมะพร้าวน้ำหอมมาล้างหน้าตอนเช้า เพราะน้ำมะพร้าวสะอาด ขณะเดียวกัน แนะนำประชาชน พยายามขายของผ่านออนไลน์ เพราะมีอินเทอร์เน็ตชุมชนอยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่าการลงพื้นที่วันนี้ ตนมารับฟังความเห็น ไม่ได้มาหาเสียงเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยรับปากว่าจะดูให้ทั้งหมด แต่ขอให้เห็นใจบ้าง ขณะเดียวกัน การเดินประท้วงกันทำให้รัฐบาลทำงานลำบากมากขึ้น ยืนยันตนเองไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นทหารเก่าที่เข้าใจหัวอกของประชาชนในพื้นที่
โดยนายกรัฐมนตรีได้ชมการเพาะเลี้ยงปศุสัตว์ เช่น ไก่ตะเภาทอง และเป็ดนครปฐม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เหมาไก่ตะเภาทองและเป็ดนครปฐม เพื่อเป็นการอุดหนุนและสนับสนุนเกษตรกรด้วย นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้ทดลองปลูกข้าวนาโยนในแปลงสาธิต
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนรัฐมนตรีบางส่วนมาร่วมโยนข้าวในนาแปลงสาธิตด้วย ในระหว่างที่นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้โยนข้าวนั้นเกิดลมตีกลับทำให้ข้าวหล่นมาโดนนายกรัฐมนตรีด้วย
ขณะเดียวกันมีเกษตรกรคนหนึ่งตะโกนมายังนายกรัฐมนตรีด้วยว่า อย่าลืมมาเก็บเกี่ยวด้วยนะครับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีถามว่า เสียงดังฟังชัดเป็นหัวคะแนนหรือไม่ โดยเกษตรกรคนดังกล่าวระบุว่า ใจรักเศรษฐกิจพอเพียง และมีศูนย์การเรียนรู้เกษตรประจำจังหวัดเพื่อลูกหลานตามแนวคิดพ่อหลวง จากนั้นจึงขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีและบอกว่า ไอเลิฟยู และบอกผู้สื่อข่าวว่า "ถ่ายรูปทำนาโยนแบบนี้ ยังดีกว่าไปก้มถ่ายคนมาจุดธูปในทำเนียบ ไม่ว่าทำอะไรก็เป็นเรื่องไปหมด"
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้ปลูกต้นจัน ก่อนจะบอกชาวบ้าน ว่าถ้าคิดถึงนายกฯ ให้คิดถึงต้นจันต้นนี้ เพราะตรงกับนามสกุล "จันทร์โอชา" หลังจากเสร็จสิ้นจากจุดนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีจะเยี่ยมชมแปลงนาบัวของลุงแจ่ม สวัสดิ์โต ซึ่งเป็นที่ดินพระราชทาน จุดเริ่มต้นของการปฏิรูปที่ดินในประเทศไทยที่บ้านศาลาดิน หมู่ที่ 3 ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม