ไม่พบผลการค้นหา
คนรุ่นใหม่นนท์ จี้ผู้เกี่ยวข้องหยุดใช้มาตรา 112 เป็นเครื่องมือ พร้อมปักหลักให้กำลังใจ 4 แกนนำรับทราบข้อกล่าวหาหน้า สภ.เมืองนนท์ ทนายความ ยันเสนอปฏิรูปสถาบัน-ยกเลิก ม.112 สามารถทำได้ ไม่ใช่การล้มเจ้า

ที่ สภ.เมืองนนทบุรี 4 แกนนำคณะราษฎร ได้แก่ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ "รุ้ง" และพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ "เพนกวิน" ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ "ไมค์ ระยอง", นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบร์ท, เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีกฤษฎางค์ นุตจรัส และนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทีมทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย

ซึ่งตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานี้เพิ่มเติม จากกรณีการชุมนุม #คนนนท์ไม่ทนเผด็จการ ที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 จากเดิมที่ทั้ง 4 คน ถูกแจ้งข้อหาตามกฎหมายอาญามาตรา 116 ว่าด้วยการยุยงปลุกปั่น และเกี่ยวกับการใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตมาแล้ว ในช่วงที่ถูกควบคุมตัวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ราษฎร 112.jpg

ขณะที่ด้านหน้า สภ.เมืองนนทบุรี มีรถโมบายเครื่องเสียงของกลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี พร้อมมวลชนมาคอยให้กำลังใจ 4 แกนนำคณะราษฎร '63 โดยมีการสลับกันปราศรัย โดยเฉพาะนายชินวัตร ได้กล่าวโจมตีการบริหารงานของรัฐบาลรวมถึงการพยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาต่างๆให้กับผู้เห็นต่างและผู้ชุมนุม รวมถึงการดำเนินการของตำรวจ ที่มุ่งเอาผิดแกนนำและผู้ชุมนุมคณะราษฎรด้วยข้อหาร้ายแรง

ชินวัตร ยังกล่าวด้วยว่า หากจะมีการแจ้งความเอาผิดตามมาตรา 112 ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสำนักงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ควรที่จะมาฟ้องร้องเอาผิดเอง พร้อมย้ำว่าข้อเรียกร้อ ปฏิรูปสถาบัน ไม่ใช่การหมิ่นประมาณหรืออาฆาตมาดร้ายเบื้องสูงและไม่ใช่การล้มล้างสถาบันแต่อย่างใด 

ราษฎร 112.jpg

โดยมีตัวแทนอ่านแถลงการณ์ ของกลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี แสดงการคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรา 112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเอาผิดผู้ชุมนุม โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หยุดดำเนินคดีกับแกนนำและผู้ชุมนุมราษฎร 2563 และหยุดใช้มาตรา 112 ดำเนินคดีกับคนไทยทุกคน

กฤษฎางค์ ให้สัมภาษณ์ว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและทางทีมทนายได้เตรียมทุกอย่างไว้ต่อสู้คดีแล้วรวมถึงเตรียมที่จะยื่นคัดค้านการขอฝากขังของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะมีการฝากขังต่อศาลด้วย พร้อมยืนยันว่า ตามหลักการเสรีประชาธิปไตยแล้ว การเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ไม่ได้เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือ ไม่ได้ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายต่อเบื้องสูง รวมถึงการขอแก้ไขกฎหมายหรือยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 ก็สามารถทำได้อยู่แล้ว

ราษฎร 112.jpg

ปนัสยยา กล่าวว่า ควรยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งมีปัญหาในการบังคับใช้รวมถึงการที่ให้บุคคลใดก็ได้แจ้งความเอาผิดผู้อื่น โดยเห็นว่าการหมิ่นประมาทผู้ใดรวมถึงกษัตริย์ ควรเป็นเรื่องระหว่างบุคคลหรือเรื่องส่วนตัว และควรใช้กฎหมายหมิ่นประมาทในบรรทัดฐานเดียวกันกับประชาชน ซึ่งผู้เสียหายหรือส่งผู้แทนเเจ้งความเองและยอมความได้ ไม่ควรเป็นอาญาแผ่นดิน

เพนกวิน กล่าวว่า การที่ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มด้วยมาตรา 112 ไม่ใช่เป็นเพียงการกระทำต่อตนและพวก แต่คือกระทำต่อการต่อสู้ของราษฎรที่ต้องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์และยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 เพราะสิ่งที่ตนและแกนนำคณะราษฎร 2563 พูดนั้น ล้วนเป็นข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ถ้าคิดว่าตนพูดไม่จริงก็เอาหลักฐานข้อเท็จจริงมาโต้แย้งกัน ไม่ใช่เอากฎหมายมาตรา 112 มาปิดปาก

นอกจากนี้ ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ตรงกับวันสิทธิมนุษยชนสากลและวันรัฐธรรมนูญของไทย ทางแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จะจัดกิจกรรมและเสวนา "ยกเลิก 112 สิ เราจะเล่าให้ฟัง" ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาคม แยกคอกวัวด้วย