ไม่พบผลการค้นหา
นายสุธรรม แสงประทุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีต 18 ผู้ต้องหา 6 ตุลาฯ ระบุว่า กงล้อประวัติศาสตร์การเมืองยังอยู่ในวังวนเดิม เพราะคนไทยไม่สรุปบทเรียนและบันทึกในสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามประเทศไทยไม่สามารถฝืนกระแสโลกได้ โดยเฉพาะการกลับเข้าสู่ประชาธิปไตย ที่ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประเทศ

ซึ่งเชื่อว่าขณะนี้ผู้มีอำนาจกำลังเครียดเกี่ยวกับการลงจากอำนาจ จึงพยายามขัดขวางการกลับคืนสู่ประชาธิปไตย อาวุธของประชาชนที่จะใช้ต่อสู้คือบัตรเลือกตั้ง โดยใช้ปากกาเวลาเข้าคูหา ซึ่งในที่สุดประชาชนจะเป็นฝ่ายชนะ เหมือนการเลือกตั้งในประเทศพม่า

นายบุญสม อัครธรรมกุล ผู้ช่วยอธิการบดี มธ. มองว่าขณะนี้คนไทยยกระดับการรับรู้มากขึ้น ขณะที่ฝ่ายทหารได้สรุปบทเรียนจากอดีต ทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะดีกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา แต่ประเด็นเกี่ยวกับการสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน คสช. รวมถึงการสืบทอดอำนาจ จะยังคงเป็นประเด็นที่นำไปสู่ความขัดแย้งในอนาคต รัฐบาลหลังการเลือกตั้งจึงจำเป็นต้องจัดการปัญหาความขัดแย้งเหล่านี้ หากสามารถจัดการได้ดี ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ปัญหาความขัดแย้งก็จะลดลง แม้จะมีการสืบทอดอำนาจเกิดขึ้นจริงก็ตาม

G83A3766.JPG

ทั้งนี้ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการจัดงานครบรอบ 42 ปี 6 ตุลาฯ 2519 ภายในสวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ธรรมศาสตร์กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่อรำลึกและไว้อาลัยแก่ผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ โดยมีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ในช่วงเช้า จากนั้นมีพิธีวางพวงมาลาและดอกไม้เพื่อรำลึกถึงเหล่าวีรชน ซึ่งมีผู้แทนจากพรรคการเมืองต่างๆ ผู้แทนจากญาติวีรชน เครือข่ายคนเดือนตุลาฯ คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา35 ผู้แทนองค์การและสภานักศึกษา มธ. รวมถึงผู้แทนจากสหภาพและสหพันธ์แรงงาน สมัชชาคนจนเข้าร่วม

G83A3873.JPG

นอกจากนี้ยังมีการกล่าวไว้อาลัยวีรชนจากผู้แทนองค์การและสภานักศึกษา มธ. ผู้แทนญาติวีรชนเดือนตุลา และผู้แทนอดีต 18 ผู้ต้องหา 6 ตุลา โดยขอให้ร่วมกันสืบสานเจตนารมณ์ของวีรชน 6 ตุลาคม และจบพิธีด้วยการอ่านบทกวีรำลึกวีรชน

อย่างไรก็ตาม ภายในงานครั้งนี้ยังมีงานเสวนาวิชาการเรื่องเหตุการณ์ 6 ตุลากับอาจารย์ป๋วย และการนำเสนอรายงานการสืบค้นเรื่องที่สูญหายจากเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ และการแสดงดนตรีรำลึกและคารวะวีรชน จากวงสามัญชนด้วย