ไม่พบผลการค้นหา
แอมเนสตี้ จัดกิจกรรมยื่น 7,301 รายชื่อเรียกร้อง ปล่อยตัว - หยุดดำเนินคดี 'อานนท์ นำภา' พร้อมยกเลิกหรือแก้กฎหมายละเมิดสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน

วันที่ 5 ก.พ. เวลา 10.00 น.แอมเนสตี้ ประเทศไทย ร่วมกับเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนนำ 7,301 รายชื่อ ยื่นข้อเรียกร้องถึง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หลังได้ขับเคลื่อนให้คนทั่วโลกได้มีส่วนร่วมลงชื่อและส่งจดหมายเรียกร้องถึงรัฐบาลให้ยุติการดำเนินคดีต่อนายอานนท์ นำภา หรือ “ทนายอานนท์” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังถูกศาลอาญาสั่งจำคุกรวม 8 ปี ไม่รอลงอาญา รวมไปถึงประชาชนและเยาวชนทุกคนที่ถูกดำเนินคดีความทางการเมือง

โดยมี สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองพร้อมคณะ ออกมารับหนังสือ

ขณะที่การชุมนุมในวันนี้แอมเนสตี้ได้แจ้งขออนุญาตจัดการชุมนุมสาธารณะไว้กับทาง สน.ดุสิต แล้ว โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มตั้งขบวนจากหน้ากระทรวงศึกษาธิการฝั่งถนนพิษณุโลก จากนั้นเคลื่อนขบวนและหยุดปราศรัยด้วยรถเครื่องขยายเสียง ที่แยกสวนมิสกวัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กมากั้นบริเวณแยกไม่ให้ผ่านเข้าไปยังด้านหน้า ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ทำเนียบรัฐบาล เพราะเป็นพื้นที่หวงห้ามใกล้กับสถานที่ราชการและเกรงว่าจะกระทบกับกลุ่มภาคีราชภักดี ที่จัดการชุมนุมอยู่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ

ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า การนำรายชื่อประชาชน สมาชิก นักกิจกรรมจากทั่วโลกมายื่นเรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวและยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดกับนายอานนท์ นำ รวมถึงนักกิจกรรมคนอื่นๆ ในครั้งนี้ เพราะคนที่ถูกดำเนินคดีควรได้รับการนิรโทษกรรม ไม่ควรถูกดำเนินคดีจากการใช้สิทธิของตนเอง 

“การแสดงออกการชุมนุมวันนี้จึงสื่อสารไปถึงรัฐบาลที่เป็นรัฐบาลพลเรือน รัฐบาลที่ได้ชื่อว่ามาจากการเลือกตั้ง ควรทำหน้าที่ในการปกป้องประชาชนไม่ให้ถูกจับกุม คุมขังและควรได้รับสิทธิการประกันตัว” 

นอกจากนี้ ปิยนุช ได้กล่าวย้ำถึงคำประกาศที่รัฐบาลไทยได้กล่าวไว้กับนานาชาติและประชาคมโลกว่า ประเทศไทยจะลงสมัครสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (HRC) ระหว่างปี 2568-2570 ที่ย้ำและให้พันธสัญญาว่าจะร่วมส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในประเทศของตัวเอง และหากรัฐไทยต้องการเป็นส่วนหนึ่งของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ รัฐไทยจะต้องเคารพ ค้มครอง สิทธิมนุษยชนในประเทศของตนเองตามที่ได้ประกาศไว้

ด้าน สมคิด กล่าวว่า การนำร่างกฎหมายนิรโทษกรรมในหลายฉบับเข้าสภา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการดึงถ่วงเวลาเพราะทราบว่าหากนำบางฉบับเข้าไปมีโอกาสถูกปัดตกสูง ”เพราะ บางทีอยากได้น้ำเต็มแก้วแต่บางครั้งอาจได้น้ำครึ่งแก้วก็ต้องยอมรับ“ เรื่องที่เกิดขึ้นในสภามีหลายเรื่อง การมายื่นหนังสือวันนี้เข้าใจว่าเป็นความต้องการของสังคมยุคใหม่ของลูกหลานเยาวชน ตนเองยินดีกับทุกฝ่ายที่มายื่นหนังสือเพราะเชื่อว่าอย่างน้อยคนไทยด้วยกันสามารถพูดคุยกันได้ โดยจะนำข้อเรียกร้องไปปฏิบัติตามและแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ ทางแอมเนสตี้ มีข้อเรียกร้องถึงรัฐบาล 3 ข้อ คือ 

1. ปล่อยตัวนายอานนท์ นำภา โดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข รวมทั้งเด็ก และเยาวชนซึ่งถูกดำเนินคดีเพียงเพราะการใช้สิทธิมนุษยชนของตน

2. ระหว่างที่ยังไม่ยกเลิกคำตัดสินว่ามีความผิดและการดำเนินคดี ต้องอนุญาตให้นายอานนท์ นำภาและนักกิจกรรมคนอื่นมีสิทธิได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และประกันว่าเงื่อนไขการประกันตัวจะไม่เป็นการจำกัดโดยพลการต่อการใช้สิทธิ 

3. แก้ไข เพิ่มเติม หรือยกเลิกกฎหมายที่ถูกใช้เพื่อจำกัดสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุม 

ต่อมาในเวลา 11.22 น. ผู้ชุมนุมได้ยุติการชุมนุม แต่ยังไม่ เปิดการจราจรบริเวณถนนพิษณุโลกแยกสวนมิสกวัน มุ่งหน้าไปสะพานชมัยมรุเชฐ