นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า วันที่ 13 พ.ค.อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจะวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศเพื่อติดตามสถานการณ์แหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ หลังประกาศปิดการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่าน
โดยจะเร่งรัดให้แต่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศจัดประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาอุทานแห่งชาติแต่ละอุทยาน เพื่อกำหนดช่วงวันเวลาที่เหมาะสมแต่ละแห่งเพื่อปิดฟื้นฟูอุทยานแห่งชาติปีละ 1 ครั้ง อย่างน้อยต้องปิดฟื้นฟูอุทยานละไม่ต่ำกว่า 2 เดือน จากกิจกรรมของมนุษย์ถือเป็นการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติผืนป่าและสัตว์ป่า ได้เพิ่มจำนวนประชากรปราศจากการรบกวนของมนุษย์เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ยั่งยืนของประเทศไทยในอนาคต
ภาพรวมการปิดในแต่ละพื้นที่ต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสม อาจมีการปิดแตกต่างกันไปแบ่งเป็นอุทยานแห่งชาติทางบกจะพิจารณาจากปัจจัยของช่วงฤดูฝน และหน้าน้ำหลากที่อาจเป็นอันตรายหากมีการเปิดท่องเที่ยว ส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเลจะพิจารณาจากปัจจัยของช่วงฤดูมรสุมตะวันออกและมรสุมตะวันตก ซึ่งทะเลฝั่งอ่าวไทยและทะเลฝั่งอันดามันจะเกิดไปตรงกัน ทั้งนี้หากได้ข้อสรุปแล้วให้แต่ละอุทยานส่งรายงานกลับมายังส่วนกลางเพื่อลงนามออกเป็นประกาศบังคับใช้ต่อไป
ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวย้ำว่า ขณะเดียวกันจะวางระบบจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับพื้นที่และป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคมตามข้อกำหนดของรัฐบาลหากมีการประกาศให้กลับมาสามารถเปิดการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย สิ่งสำคัญเพื่อลดการรบกวนและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับสัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติด้วย
ในเบื้องต้นแต่ละอุทยานแห่งชาติได้ปรับปรุงสาธารณูปโภค เพื่อเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ลานกางเต้นท์ ควบคู่กับการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ และเชิงรุกเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาตัดไม้และล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ เนื่องจากการปิดช่วงโควิด-19 พื้นที่ป่าไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์ส่งผลให้สัตว์ป่าจำนวนมากออกมาหากินนอกพื้นที่ โดยเฉพาะสัตว์ป่าหายากบางชนิดจึงต้องเพิ่มความเข้มงวดการลาดตระเวนเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง