นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา พ.ร.ก. เพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 และร่าง พ.ร.บ. โอนงบประมาณรายจ่ายในสัปดาห์หน้าว่า พรรคจะมีการประชุม ส.ส. ในวันอังคารที่ 26 พ.ค. 2563 เวลา 13.30 น. เพื่อเตรียมความพร้อมในการพิจารณา พ.ร.ก. 3 ฉบับ ได้แก่ 1. พ.ร.ก. กู้เงินแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคม 1 ล้านล้านบาท, 2. พ.ร.ก. ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ 5 แสนล้านบาท, และ 3. พ.ร.ก. รักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท
นอกจากนั้นยังมี ร่าง พ.ร.บ. โอนงบประมาณรายจ่ายเข้าสู่การพิจารณาด้วย ซึ่ง ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ สะท้อนถึงปัญหาของการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม เป็นวงกว้างทั่วประเทศ จนรัฐบาลต้องออก พ.ร.ก. เพื่อช่วยเหลือ ดูแล เยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจ รวมทั้งอภิปรายแสดงข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพื่อให้การดำเนินการตาม พ.ร.ก. ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คุ้มค่า โปร่งใส ไร้การทุจริต
นายองอาจ เปิดเผยว่า ขณะนี้มี ส.ส. ของพรรคฯ ได้ทำการบ้านติดตามการออก พ.ร.ก. มาอย่างต่อเนื่อง สนใจที่จะอภิปรายเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็คงมาดูตามความเหมาะสมว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้เวลาอภิปรายมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ก็คงขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างวิปฝ่ายค้านกับวิปฝ่ายรัฐบาลว่าจะจัดสรรเวลากันอย่างไร เพราะการอภิปราย พ.ร.ก. และร่าง พ.ร.บ. โอนงบประมาณ ส.ส. ทุกคนในสภาสามารถอภิปรายได้ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ไม่เหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เป็นหน้าที่ของ ส.ส. ฝ่ายค้าน เป็นผู้อภิปรายแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่จะใช้เวลาอภิปรายกันกี่วันถึงจะเหมาะสมนั้น ตนไม่อยากให้เอาเวลามาเป็นตัวตั้ง แต่อยากให้เอาเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์มาเป็นตัวตั้งมากกว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่า ส.ส. ในสภาทุกท่านจะอภิปรายเนื้อหาที่มีประโยชน์ เพราะมีความปรารถนาดีที่อยากเห็น พ.ร.ก. กู้เงินก็ดี พ.ร.ก. ที่ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยก็ดี เป็น พ.ร.ก. ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหา เยียวยาประชาชนและดูแลเศรษฐกิจสังคมให้เดินหน้าต่อไปได้
นายองอาจกล่าวต่อไปว่า ส.ส. ของพรรคฯ จะทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนประชาชนทั่วประเทศอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อเป็นปากเสียงแทนประชาชนในสภาผู้แทนราษฎรให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ และร่วมมือกับพี่น้องชาวไทยทุกภาคส่วนในการช่วยกันฟันฝ่าวิกฤตโควิด–19 ทำให้เศรษฐกิจ สังคม ประเทศชาติกลับคืนสู่สภาวะปกติและเดินหน้าต่อไปได้ในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :