ไม่พบผลการค้นหา
'หมอวรงค์' นั่ง 'หัวหน้ากลุ่มไทยภักดี' ประกาศข้อเรียกร้อง ต้องไม่ยุบสภา ไม่แก้รัฐธรรมนูญและเอาผิดผู้เสนอปัญหาเกี่ยวกับสถาบัน ชูเศรษฐกิจพอเพียง สร้างรากฐานชาติ

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย แถลงข่าวเปิดตัว "กลุ่มไทยภักดี" ซึ่งนพ.วรงค์ เป็นหัวหน้ากลุ่ม ภายใต้คำขวัญ "ปกป้องสถาบันฯ สืบสานความเป็นไทย ต้านทุนผูกขาด ใช้เทคโนโลยีทันสมัย สร้างรากฐานชาติพึ่งพาตนเอง" ในงานมีการเปิดคลิปวีดีโอพร้อมแนะนำตัว ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มทั้ง 28 คน จากหลายหลายอาชีพ ที่สำคัญคือ ดลฤดี บุนนาค จูฑะศรี ข้าราชการบำนาญ, หฤทัย ม่วงบุญศรี อาชีพศิลปิน, ปฏิยุทธ ทองประจง ผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานและเครือข่ายสถาบันทิศทางไทย

ไทยภักดี

โดยกลุ่มไทยภักดี มีเจตนารมจะเป็นกลุ่มการเมืองใหม่ ที่พร้อมเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ในการขับเคลื่อนสังคมด้วยความงหวังที่จะนำพาประชาชนและประเทศชาติฟันฝ่าวิฤกตต่างๆที่เกิดขึ้นรายล้อมอยู่ขณะนี้ ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีจุดยืน 6 ข้อ คือ    

1.) ปกป้องสถาบันชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ที่ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้   

2.)​ ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต่อต้านการปกครองระบอบประธานาธิบดี ต่อต้านระบบสมาพันธรัฐและการแบ่งแยกประเทศ แต่ไม่ปฏิเสธการกระจายอำนาจไปยังองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น

3.) พัฒนาประเทศบนพื้นฐานหลักวิถีไทยและสืบสานความเป็นไทย

4.) เชื่อว่ากลุ่มทุนผูกขาดเป็นปัญหาสำคัญต่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน 

5.)​ สนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยของคนทุกกลุ่ม 

6.)​ ไม่ปฏิเสธการลงทุนของต่างชาติและทุนใหญ่ แต่ต้องวางรากฐานชาติด้วยการพึ่งพาตนเองโดยใช้หลักการเศรษฐกิจพอเพียง

โดยกลุ่มไทยภักดี มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 

1.) ต้องไม่ยุบสภา ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ มีผลงานจัดการวิกฤตโควิด-19 ในประเทศ จนเป็นที่ประจักษ์ว่าไทยเป็นประเทศที่ติดอันดับ 1 ของประเทศที่ฟื้นตัวดีที่สุดในโลก

2.) ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดตามหลักนิติรัฐนิติธรรมกับกลุ่มบุคคลทุกอายุ ทุกกลุ่ม ที่เสนอการแก้ปัญหาว่าด้วยสถาบันกษัตริย์ ทั้งแกนนำ, ผู้ปราศรัย, กลุ่มอาจารย์และกลุ่มการเมือง อันไม่ชอบด้วยหลักการคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ในรัฐธรรมนูญ เพื่อคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและการใช้เสรีภาพที่ไม่ก้าวล่วงขอบเขตใดๆตามอำเภอใจ

3.)​ ต้องไม่แก้รัฐธรรมนูญ 2560 โดยปราศจากฉันทามติของประชาชนที่ลงประชามติไปแล้ว เพราะถือเป็นรัฐธรรมนูญที่เสริมสร้างกระบวนการประชาธิปไตยมากที่สุด

ยกย่อง 'คณะรัฐประหาร' ตำหนิ 'คณะราษฎร'

ทั้งนี้ นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 59 ปี ไม่เคยเห็นสถาบันเบื้องสูงทำลายประเทศ แต่อยู่ในวงการการเมืองมา 15 ปี ได้เห็นนักการเมืองทำลายประเทศชาติหลายครั้ง แต่ฝ่ายประชาธิปไตยไม่พูดถึง โดยมองว่า สิ่งที่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหาในปัจจุบัน เป็นเพราะก่อนหน้านี้หรือราว 10 ปีก่อน ที่นักการเมืองใช้อำนาจโดยมิชอบ มีการทุจริต ไม่ใช่ปัญหาจากสถาบันหรือการรัฐประหาร พร้อมชื่นชมการรัฐประหารปี 2549 ที่ได้ขับไล่รัฐบาลที่ไม่ดี ปกป้องประชาชน จึงได้รับการสนับสนุน ต่างจากการอภิวัฒน์ของคณะราษฎรปี 2475 ที่เป็นการแย่งอำนาจตัวเอง

โดยยืนยันว่า ก่อนรัฐประหารปี 2557 มีคดีจำนำข้าว และเยาวชนนักศึกษาที่ออกมาชุมนุมขณะนี้ ช่วงนั้นยังเด็กอาจไม่รู้เรื่อง และตนภูมิใจที่ล้มโครงการจำนำข้าวได้ แม้มีรัฐธรรมนูญปี 2560 แล้ว ประเทศก็ยังวุ่นวาย เพราะนักการเมืองไม่ยอมรับผิด โดยเฉพาะ "กรณีโอนหุ้น" มี "พวกชังชาติ" ปลุกระดมลูกหลานนิสิตนักศึกษาที่ยังไม่มีวุฒิภาวะออกมาชุมนุม เพราะนักการเมืองเหล่านี้ไม่เคยโทษตัวเอง แต่โทษสถาบันเบื้องสูง ถึงขนาดให้ร้ายคิดล้มล้างสถาบัน แต่เบื้องสูงตอบโต้ไม่ได้ เหมือนถูกมัดมือชก ดังนั้น ตนจึงยอมไม่ได้ พร้อมย้ำว่า" คนกลุ่มหนึ่งพยายามจาบจ้วง ป้ายสีสถาบัน แต่คนไทยที่ภักดีจะไม่ยอม" พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมกลุ่มไทยภักดีของตน เพื่อปกป้องสถาบันเบื้องสูง