ในเดือน ก.พ. คณะกรรมาธิการโอลิมปิกสากลได้ออกแนวทางปฏิบัติ ให้องค์กรทางด้านการกีฬาต่างๆ นำรัสเซียและเบลารุสออกจากการแข่งขัน จากกรณีการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน แต่ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการโอลิมปิกและพาราลิมปิกของสหรัฐฯ สนับสนุนการเปิดช่องทางให้นักกีฬารัสเซียและเบลารุสเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก โดยไม่ใช้ธรงประจำชาติของพวกเขาเอง บัคกล่าวว่า ยังไม่มีการกำหนดเส้นตายของการตัดสินใจดังกล่าว และสถานะของนักกีฬารัสเซียและเบลารุสในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ในปี 2567 ณ กรุงปารีสนั้นยังคงไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีกล่าวว่า เขาผิดหวังกับแนวทางนโยบายที่จะอนุญาตให้นักกีฬาของรัสเซียและยูเครนเข้าร่วมการแข่งขันแม้กระทั่งภายใต้ธงที่เป็นกลางซึ่งไม่ใช่ธงชาติของทั้ง 2 ประเทศก็ตาม
“เราไม่สามารถวางตัวเป็นกลางได้ หากพื้นฐานของชีวิตอันสงบสุขกำลังถูกทำลายลง และคุณค่าความเป็นมนุษย์อันเป็นสากลกำลังถูกเพิกเฉย” เขากล่าว
รัฐบาลยูเครนกล่าวว่า กองกำลังของรัสเซียได้คร่าชีวิตนักกีฬาชาวยูเครนไปแล้ว 184 คนนับตั้งแต่เริ่มต้นสงคราม
เซเลนสกีกล่าวว่า การตอบโต้เดียวที่รัฐบาลรัสเซียสมควรจะได้รับคือ “การโดดเดี่ยวโดยสมบูรณ์ออกจากเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในกิจกรรมกีฬาระหว่างประเทศ” ในวิดีโอที่เผยแพร่ภายหลัง เซเลนสกีแถลงว่า “เราสามารถพูดได้เพียงอย่างเดียวว่า ธงขาวหรือธงที่เป็นกลางใดๆ ไม่คู่ควรกับนักกีฬารัสเซียทั้งนั้น เนื่องจากธงของพวกเขานั้นเปื้อนเลือด
ทั้งนี้ ในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ณ กรุงปักกิ่งเมื่อต้นปี 2565 ซึ่งเกิดขึ้นก่อนการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย นักกีฬารัสเซียในขณะนั้นเข้าร่วมการแข่งขันภายใต้ธงคณะกรรมาธิการโอลิมปิกประจำชาติ แทนที่จะใช้ธงชาติรัสเซียเช่นกัน อันเนื่องมาจากการละเมิดข้อกำหนดเรื่องการใช้ยาของนักกีฬารัสเซีย
ที่มา: