วันที่ 23 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นิกร จำนง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในรัฐธรรนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าในการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 

โดย นิกร กล่าวว่า วันนี้ได้เข้ามารายงานข้อสรุปของคณะกรรมการฯ ต่อ ครม. 2 ส่วน ซึ่ง ครม. เห็นชอบตามรายงานที่เสนอ โดยส่วนแรกคือ การขอทำประชามติ 3 ครั้ง โดยครั้งแรกจะเป็นคำถามว่า เห็นชอบในการแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 หรือไม่ ซึ่ง ครม. มอบหมายให้สำนักปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประสานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อเสนอขั้นตอนการทำประชามติตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติ ม.15 

นิกร ยังเชื่อว่า การทำประชามติครั้งแรกจะเกิดขึ้นในปลายเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งจะอยู่ในกรอบกฎหมายระหว่าง 90-120 วัน โดยการทำครั้งแรกจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,200 ล้านบาท ซึ่งทำตามกฎหมายเดิมที่ระบุ อย่างไรก็ตาม ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ เชื่อว่า การทำประชามติครั้งแรกจะผ่าน แม้ยังไม่แก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ที่จะลดเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น เพราะจากการไปฟังเสียงประชาชน เขาอยากให้มีการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 

นิกร กล่าวต่อว่า หากทำประชามติครั้งแรกผ่าน ขั้นตอนต่อไปจะมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.256 เพื่อให้รัฐสภาประกอบไปด้วย สส. และ สว. เป็นคนกำหนดออกแบบสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จากนั้นเมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ก็ทำประชามติครั้งที่ 2 จากนั้นจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เมื่อได้ ส.ส.ร. แล้ว จะมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อร่างเสร็จก็จะทำประชามติครั้งที่ 3 ซึ่งตนมั่นใจว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมทั้งฉบับจะอยู่ภายในกรอบอายุของรัฐบาลชุดนี้