วันที่ 19 ต.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) ครั้งที่ 1/2565
โดยระหว่างที่นายกฯ เดินจากตึกคู่ฟ้า มายังตึกภักดีบดินทร์ มีสีหน้าที่เรียบเฉย เพียงแต่หันกลับมารับไหว้ การทักทายจากสื่อมวลชนเท่านั้น
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวช่วงหนึ่งในที่ประชุมว่า จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 13 เกิดกลไกในการทำงาน ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน จะต้องทำงานแบบพุ่งเป้า พุ่งเป้าไปที่เป้าหมายซึ่งเป็นพื้นที่เป็นกลุ่ม ที่คนไทยมีหลายกลุ่มด้วยกัน เพื่อให้หลุดพ้นจากความลำบาก และมีการพัฒนาตนเองร่วมกัน กับสังคมไปด้วยกัน
กนป. เห็นชอบการประกันรายได้เกษตรกรปี 65-66 จ่ายชดเชยงวดแรก ก.ย.65
ขณะที่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ครั้งที่ 3/2565 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็น ประธานการประชุมพิจารณาเห็นชอบให้เปิดตลาดน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม พร้อมบริหารการนำเข้าคราวละ 3 ปี (ปี66-68) โดยให้เป็นไปตามข้อผูกพันของทุกกรอบการค้า และมีการบริหารการนำเข้าเช่นเดียวกับกรอบองค์การ การค้าโลก (WTO) โดยให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้มีสิทธิ์นำเข้าและกระจายให้ผู้ผลิตภายในประเทศ ตามที่สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มเป็นผู้จัดสรร เพื่อเป็นการรักษาสมดุลการนำเข้า และไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของเกษตรกร และเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี65-66 โดยเริ่มจ่ายเงินชดเชยประกันรายได้งวดแรก ให้แก่เกษตรกร ตั้งแต่ ก.ย. 2565 เพื่อให้มีความต่อเนื่อง จากโครงการ ปี64-65 รวมทั้งเห็นชอบขยายเวลาโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์ม เพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี65
พล.อ.ประวิตร ได้กำชับในที่ประชุมให้ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องปฏิบัติตามมติ กนป.ในวันนี้ อย่างเคร่งครัด และให้เร่งรัดการติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำมันปาล์มให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเร่งช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มให้ได้ราคาปาล์มที่สูงขึ้น และติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรองรับการแก้ปัญหาและป้องกันราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำด้วย และเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในอาชีพการทำสวนปาล์ม ที่จะส่งเสริมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป