ไม่พบผลการค้นหา
กป.อพช. ประณามการทำหน้าที่ของ 'สมาชิกวุฒิสภา-ศาลรัฐธรรมนูญ' กำลังใช้อำนาจสวนทางฉันทามติของประชาชน

วันที่ 19 ก.ค. 2566 คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอประณามการทำหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา และศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำลังใช้อำนาจสวนทางฉันทามติของประชาชน กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ปรากฏการณ์หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 มีคนบางกลุ่มพยายามอ้างเหตุผลไม่ยอมรับฉันทามติของประชาชนที่ได้เลือกพรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับหนึ่ง อันถือเป็นความชอบธรรมที่จะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ด้วยเหตุผลเพียงว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีนโยบายสุดโต่งที่เสนอให้มีการแก้ไขมาตรา 112 และต่างพูดกันไปไกลว่าเป็นนโยบายที่จะนำไปสู่การสั่นคลอนหรือทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ในที่สุด อันเป็นคำกล่าวหาที่เกินความจริง ทั้งที่เรื่องนี้หัวหน้าพรรคและคนในพรรคก้าวไกลพยายามอธิบายเจตนาไปแล้วหลายครั้งถึงเหตุผลและข้อเท็จจริงอันจำเป็นที่จะต้องมีนโยบายการแก้ไดังกล่าวไขเรื่องดังกล่าว ซึ่งมีสาระสำคัญที่ไม่ต้องการกลุ่มใดก็แล้วแต่อ้างใช้มาตรา 112 เพื่อประโยชน์ในทางการเมือง ด้วยพบว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ มีกลุ่มอำนาจต่างๆหยิบยกสิ่งนี้เป็นเครื่องมือในการทำลายกันในทางการเมือง หรือแม้แต่มีการอ้างใช้เพื่อประโยชน์ของคนเฉพาะกลุ่มด้วยเช่นกัน ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วพรรคก้าวไกลเพียงต้องการใช้พื้นที่ของรัฐสภา เป็นช่องทางหาทางออกในเรื่องนี้ร่วมกัน อันเป็นบรรทัดฐานทั่วไปที่ปัญหาบ้านเมืองหรือความไม่เข้าใจในทางการเมืองจะต้องได้รับการปรึกษาหารือผ่านระบบและกลไกทางการเมืองที่มีอยู่ตามหลักประชาธิปไตย

มายาคติทางการเมือง ที่อ้างความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์กำลังถูกผูกขาดโดยคนบางกลุ่ม และทำการผลักไสให้คนอีกกลุ่มที่ออกมานำเสนอความจริงในเรื่องนี้ไปอยู่ในฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งกำลังกลายเป็นเครื่องมือที่นักการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองกำลังนำมาใช้เพื่อกำจัดพรรคการเมืองที่กำลังได้รับความไว้วางใจจากประชาชน อันเป็นเกมการเมืองที่ดำเนินไปอย่างแยบยลและทำกันอย่างเป็นขบวนการ ดังจะเห็นได้จากท่าทีของสมาชิกวุฒิสภา และศาลรัฐธรรมนูญในขณะนี้

​คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) จึงขอประณามการทำหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภาและศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำลังใช้อำนาจของพวกตน สวนทางกับฉันทามติของประชาชน โดยการสร้างเงื่อนไขทางการเมืองปิดกั้นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้ไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมตรีได้ พร้อมกันนี้เราขอเรียกร้องให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกองค์กร ได้โปรดออกมาแสดงเจตจำนงร่วมกันต่อความไม่ปกติของปรากฏการณ์ดังกล่าว ทั้งจะต้องยืนยันและรักษาไว้ซึ่งหลักการสำคัญของระบบประชาธิปไตย ที่ต้องเคารพในอำนาจอธิปไตยของประเทศนี้ ซึ่งหมายถึง “ประชาชน” ผู้เป็นเจ้าของประเทศทุกคน

361913949_217275674613837_143591726100641407_n.jpg