ในการประชุมสภาเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาโวส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนมกราคม หลายฝ่ายมองเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในประเด็นเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจและความห่วงใหญ่คือ "สปรินเทอร์เน็ต" หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง(มาก)
เป็นที่น่าจับตามองว่าประเทศอย่าง จีน รัสเซีย และประเทศพันธมิตรอื่นๆ จะหยิบเทคโนโลยีประเภทที่เอื้อประโยชน์ให้กับการเมืองของตัวเองโดยการลบข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่อยู่ภายใต้การคุ้มครอง ในขณะที่ประเทศอื่นใช้เทคโนโลยี 5 จี ในมาตรฐานปกติซึ่งเคารพคุณค่าของประชาธิปไตย
สำหรับประเด็นข้างต้น สหรัฐฯ ออกมาประนามจีนในการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด ผู้ผลิตอุปกรณ์รองรับสัญญาณ 5 จี อย่างโนเกีย และ อีริคสัน เป็นสองเจ้าใหญ่ในยุโรป แต่ก็ยังต้องการหุ้นส่วนมาช่วยหากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่สัญชาติจีนอย่าง หัวเว่ย ถูกสั่งห้ามให้มีการซื้อขาย และในกรณีที่แย่ที่สุดหากรัฐบาลออกมาประกาศให้เปลี่ยนอุปกรณ์ 3 จี และ 4 จี ของหัวเว่ยทั้งหมดอันเนื่องมาจากความกังวลด้านความปลอดภัย
จีเอสเอ็มเอ ผู้แทนผลประโยชน์ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั่วโลก กระตุ้นให้บริษัทโทรคมนาคมจัดการกับดีเอ็นเอของบริษัทเพื่อสร้างมูลค่าให้กับ 5 จี และได้ประโยชน์จากมูลค่าของเทคโนโลยี ไม่เหมือนสมัยเปลี่ยนผ่าน 3 จี เป็น 4 จี ภายในปีนี้บรรดาผู้พัฒนาเทคโนโลยี จะเริ่มออกผลิตภัณฑ์ 5 จี ซึ่งจะทำให้เราทราบว่ารายได้ของบริษัทถูกแบ่งอย่างไรระหว่างผู้ผลิตอุปกรณ์ บริษัทโทรคมนาคม ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ และบรรดามือใหม่ในวงการ
ต้องไม่ลืมว่ายุโรปเลือกที่จะซื้ออุปกรณ์จากจีนไม่ใช่แค่เพราะเทคโนโลยีของจีนแต่เพราะราคาที่ถูก การมีปัญหาระหว่างนานาชาติโดยเฉพาะสหรัฐฯ ย่อมส่งผลกระทบต่อการซื้อขายอุปกรณ์และภาระที่ยุโรปต้องแบกอย่างแน่นอน
อ้างอิง; CNBC