การอนุมัติการขายอาวุธในครั้งนี้ ถูกประกาศโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โดนสหรัฐฯ ได้ทำการขายเครื่องบินทางการทหาร ตลอดจนระบบเรดาร์ป้องกันทางอากาศ การประกาศในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องตัดสินใจว่าจะระงับความช่วยเหลือทางการทหารแก่อียิปต์ ที่ถูกระงับไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาต่อไปหรือไม่ เนื่องจากความกังวลต่อปัญหาสิทธิมนุษยชนในอียิปต์
จากเอกสารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่ยื่นแจ้งเรื่องต่อรัฐสภาระบุว่า สหรัฐฯ ได้ทำการขายเครื่องบินรบซูปเปอร์เฮอร์คิวลีส 12 C-130J และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมูลค่ารวม 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7.2 หมื่นล้านบาท) รวมถึงฐานเรดาห์ภาคพื้นดิน SPS-48 จำนวน 3 เครื่องและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมูลค่า 355 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท)
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า เหตุผลของการขายอาวุธให้อียิปต์ในครั้งนี้ “จะช่วยให้การสนับสนุนนโยบายการต่างประเทศ และความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ผ่านการให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาความมั่นคงของชาติพันธมิตรที่ไม่ใช่สมาชิก NATO ซึ่งจะยังคงเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลาง”
เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน รัฐบาลสหรัฐฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือทางการทหารแก่อียิปต์กว่า 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 5.6 พันล้านบาท) และระงับเงินจำนวน 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4.2 พันล้านบาท) โดยในตอนนี้ สมาชิกรัฐสภาฝ่ายเดโมแครตกำลังเรียกร้องให้บลิงเคนทบทวนการขายอาวุธให้แก่อียิปต์ใหม่
รัฐบาลอียิปต์ประสบกับข้อหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก ตั้งแต่ประเทศเกิดการรัฐประหาร จากรายงานด้านสิทธิมนุษยชนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เองระบุว่า ประชาชนอียิปต์จำนวนมากถูกสังหารอย่างผิดกฎหมายและโดยพลการ ถูกบังคับให้สูญหาย การทรมาน สภาพเรือนจำที่เป็นภัยต่อชีวิตผู้ถูกคุมขัง การจับกุมตัวโดยอำเภอใจของเจ้าพนักงาน การจำกัดเสรีภาพทางคำพูด การแสดงออก และการมีส่วนร่วมทางการเมือง
ที่มา:
https://abcnews.go.com/Politics/wireStory/us-approves-major-arms-sale-egypt-rights-concerns-82476315