พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ในสถานการณ์พื้นที่ใดที่ยังมีปัญหาอุทกภัย ต้องดูแลประชาชนทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก การอยู่อาศัย การสัญจร สุขภาพอนามัย และศูนย์ที่พักพิงที่ยังมีอยู่ใน จ. อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ส่วนพื้นที่ที่ไม่มีสถานการณ์อุทกภัยแล้ว จะอยู่ในขั้นการพื้นฟู มีการบูรณาการทุกภาคส่วน ดูแลความสะอาด โดยท้องถิ่นกับส่วนของอำเภอจะเริ่มจากการสำรวจโดยเร็วที่สุด ทั้งความเสียหายของที่อยู่อาศัยและการประกอบอาชีพ
นอกจากนี้ยังต้องเร่งฟื้นฟูบูรณะโรงเรียน สถานพยาบาล สถานที่สาธารณูปโภค หน่วยงานรับผิดชอบก็มีหน้าที่ดูแล โดยจากกำหนดงานเป็นเฟส เพราะจะทำพร้อมกันทั้งหมดไม่ได้ ต้องหารือร่วมกันก่อนว่าจะดำเนินการในที่ใด เพื่อกำหนดงานและระดมกำลังลงไปช่วยเหลือให้เร็วที่สุด ทั้งนี้มีการสำรวจพื้นที่นาแล้วเกือบ 3 ล้านไร่ ซึ่งเริ่มตั้งแต่เกิดภัยแล้งขึ้น
ทั้งนี้เรามีการเตรียมการสำรวจและการทำประชาคมให้สังคมยอมรับว่ามีความเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป ต้องไม่มีการเลือกปฎิบัติ ลำเอียง หรือข้อมูลไม่ตรงตามความจริง ยอมรับว่ายาก แต่ต้องดำเนินการให้ดี โดยการช่วยเหลือ การฟื้นฟูและเยียวยาจะต้องดำเนินการสำรวจให้เร็วที่สุด สำหรับมาตรการเยียวยาบ้านเรือนที่เสียหาย ยังไม่ทราบปริมาณที่แน่ชัด แต่จะเร่งสำรวจให้เร็วที่สุด
เมื่อถามถึงกรณีผู้ประสบภัยไม่ยอมไปอาศัยในศูนย์อพยพ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นความเคยชิน และเป็นห่วงบ้านรวมถึงห่วงคนเฝ้าบ้าน เป็นความรู้สึกของชาวบ้านที่อยากอยู่ตรงนั้น สิ่งที่ไม่สะดวกซึ่งเรามีความกังวลคือ ส้วม
ทั้งนี้เราเตรียมสถานที่ไว้ให้พร้อม เช่น ที่มทบ. 22 มีความพอเพียงอย่างแน่นอน ชาวบ้านก็ไม่ไป ดังนั้นทางกระทรวงมหาดไทยจึงไดระดมรถสุขาเคลื่อนที่จากภาคกลางลงไปช่วย แต่ก็ยังไม่พอเพียง จึงมีการแจกจ่ายส้วมเก้าอี้ เมื่อต่อข้อถามว่า ที่ศูนย์พักพิงมีการติดแอร์หรืองหรือไม่
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า บางอาคารก็มีการติดแอร์อยู่แล้ว ซึ่งยืนยันว่ามีความพร้อม อย่างไรก็ตามชาวบ้านไม่ได้กลัวลำบากแต่เขาอยากอยู่ใกล้บ้าน ส่วนที่มีการไปปลุกปั่นชาวบ้าน ตนขอไม่วิจารณ์ เพราะไม่ได้เห็นด้วยตนเอง