ไม่พบผลการค้นหา
‘สนธิญา’แจ้งความ ปอท.เอาผิดเจ้าของทวิตเตอร์ 'Oak Panthongtae' หาว่าเป็น 'สุนัขรับใช้ที่คอยตามชเลียร์ท็อปบูทให้เผด็จการ'

วันที่ 5 ม.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สนธิญา สวัสดี เข้าพบ ร.ต.อ.หญิง ณัฐชยา วงศ์รุจิไพโรจน์ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. แจ้งความดำเนินคดีเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ ชื่อ Oak Panthongtae ว่ากระทำการนำข้อมูลที่บิดเบือน หลอกลวง และข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ฉบับ 2 ปี 2560 มาตรา 14 (1) (5) วรรค 2 เข้าสู่คอมพิวเตอร์

โดยนำหลักฐานการโพสต์ทวิตเตอร์บัญชีดังกล่าวเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.65 เป็นภาพแคปเจอร์จาก “ข่าวเด่น มติชน” ที่มีรูป สนธิญา ผู้แจ้งกับ แพทองธาร ชินวัตร ประธานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกอบข่าวว่า”ร้อง กกต.สอบ ‘แพรทองธาร’โพสต์ภาพคู่ทักษิณ ผิดศีลธรรม เข้าข่ายยุบพรรค”

พร้อมข้อความเพิ่มเติมว่า “ลูกสาวไปเยี่ยม หรือโพสต์ภาพลงโซเชียลคู่กับพ่อ ไม่มีใครบ้องตื้นคิดว่าเป็นการผิดศีลธรรม หรือก่อกวนความสงบเรียบร้อย ของประชาชนหรอกครับ ถ้าจะมองว่าผิด หรือก่อกวนอย่างที่กล่าวอ้าง…พวกสุนัขรับใช้ ที่คอยตามชเลียร์ท็อปบูทให้เผด็จการฯ น่าจะผิดชัดเจนกว่าเยอะ”

ซึ่งมียอดคนดูกว่า 268 K และรีทวีต ไปกว่า 2,044 ครั้ง

สนธิญา กล่าวว่า ทวิตเตอร์ดังกล่าวตนไม่ทราบว่ามีใครเป็นเจ้าของ แต่มีการกล่าวหาว่าตนเป็นสุนัขรับใช้เลียท็อปบู๊ตหรือรับใช้เผด็จการ เพราะมีการนำรูปภาพของตนมาลงด้วย วันนี้ตนจึงนำหลักฐานนี้มาให้ บก.ปอท.ตรวจสอบพิจารณา 1. ทวิตเตอร์ดังกล่าวมีใครเป็นเจ้าของ 2.ข้อความที่เขียนแล้วทวิตฯ เป็นคนเขียนเองใช่หรือไม่ 3.นำรูปภาพตนลงไปทำไม ทั้งสามประเด็นถ้าตรวจสอบแล้วเป็นจริงก็จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

หลังจากนี้ตนจะนำทวิตฯ ดังกล่าวไปร้องคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ว่าโดนละเมิดสิทธิ เพราะบุคคลที่พูดกล่าวอ้างว่าตัวเองอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งถ้าเป็นประชาธิปไตยจริงก็ต้องยอมรับการตรวจสอบ เพราะเรื่องที่ตนไปยื่น กกต.ให้ทำการตรวจสอบนั้น แพทองธาร กับ ทักษิณ เป็นพ่อลูกกันตัดกันไม่ขาด แต่เมื่อใดที่ แพทองธาร มาเป็นผู้บริหารพรรคการเมือง อยู่ในกระบวนการพรรคการเมือง เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ต้องเข้าสู่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องพรรคการเมือง พ.ศ.2560 อย่างชัดเจนและเป็นไปตามกฎหมาย 

ตนร้องให้ตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ หรือไม่ ที่มีข้อห้าม 8 มาตราที่บรรจุอยู่ในมาตรา 92 (3) บุคคลหนึ่งบุคคลใดที่เป็นกรรมการบริหารพรรค หรือพรรคกระทำการขัดต่อมาตรา 92 (3)ที่ห้ามไว้ ถึงขั้นยุบพรรค

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบหลักฐานและสอบปากคำผู้แจ้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป