วันที่ 28 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สุทิน คลังแสง ประธานวิป ฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภาตั้งฉายา ให้กับสภาผู้แทนราษฎร “3 วันหนี 4 วันล่ม” ว่า ต้องยอมรับ เพราะภาพออกมาเป็นเช่นนั้น แต่เสียดายเพราะทำให้ภาพพจน์ของสภาออกมาไม่ดี รัฐบาลไม่น่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ฝ่ายค้านไม่ได้โยนปัญหาให้รัฐบาล เพราะที่ผ่านมามีการทำเช่นนี้ แต่ไม่เคยเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ
ส่วนฉายาของ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คือ “ หมอ(ง)ชลน่าน” มองว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะมีงานเยอะขึ้น จึงไม่มีเวลาทำงานสภามาก อาจจะจืดไปหน่อย ฉายาอาจจะใช่ แต่ก็มีเหตุผลที่เข้าใจได้
สำหรับฉายาของ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร “ชวน ซวนเซ” ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะประธานทำหน้าที่ได้ดี มีบารมี มีหลักการ แต่หากให้เรียบร้อยทั้งหมดคงไม่ใช่
ขณะที่ฉายาของ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา “พรเพชร พักก่อน” นั้นเห็นว่าเหมาะสม แต่อาจจะเบาไป ความจริงน่าจะได้ฉายาที่หนักกว่านี้ หากเปรียบการทำงานในวุฒิสภาทำได้ แต่ทำงานในรัฐสภาไม่ได้
ส่วนฉายาของวุฒิสภา “ตรา ป.” มองว่า ถูกต้องที่สุด เพราะที่ผ่านมาทำงานภายใต้ธงของรัฐบาล ไม่เคยเห็นอะไรที่แตกแถว หรือยืนตรงข้ามรัฐบาล
สำหรับฉายาดาวเด่น และคนดีศรีสภา ที่ไม่มีนั้น เห็นว่า หลายคนมีสำนึกดีและขยันทำงาน แต่ทักษะการนำเสนออาจจะไม่เด่น อยากให้ดูความขยันในส่วนนี้ด้วย เช่นเดียวกับฉายาคนดีศรีสภา สื่อมวลชน อาจจะระมัดระวังว่าจะให้ใครมากกว่า เพราะมีทั้งคุณ และโทษ
ขณะที่ฉายา ดาวดับ คือ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ มองว่า อาจจะแรงไป เพราะ มงคลกิตติ์ มีการนำเสนอที่แตกต่าง แต่ในมุมมองส่วนตัวเห็นว่า ดาวดับนั้น คือ คนที่ทำอะไรแล้วสังคมประนาม แต่ก็แล้วแต่ คิดกันคนละมุม
สำหรับวาทะแห่งปีนั้น มองว่า เหมาะสม เพราะเรื่องนี้เด่นจริงๆ ซึ่งเป็นประโยคที่ไม่น่าเกิเขึ้นในรัฐสภา ไม่คิดว่าจะยอมรับ และจำนนต่อสภา เรียกได้ว่า จับคนปฏิวัติ จับโจรต่อหน้าศาล