ไม่พบผลการค้นหา
'หมอระวี' ชม 'รมว.ดิจิทัล' ท่าทีดี หลังรับเรื่องร้องเรียนความไม่โปร่งใสในไปรษณีย์ไทย ฝากการบ้าน 6 เรื่อง ทั้งโครงการเขียนซอฟต์แวร์ล่าช้ากว่าสัญญา - โครงการพัฒนาระบบขนส่งล้มเหลว ไปจนถึงการพัฒนาองค์กรให้ทันเอกชน หวั่นกำไรหด กระทบอนาคตไปรษณีย์ไทย

นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบกรณีควาทไม่โปร่งใสที่ส่อถึงการทุจริตในการดำเนินโครงการของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ว่า หลังจากได้แจ้งเรื่องต่อนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ทราบว่ารัฐมนตรีให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อร้องเรียนต่าง ๆ โดยได้นำไปกำชับในการมอบนโยบายกับคณะกรรมการและผู้บริหารบริษัทไปรษีย์ไทย จำกัด ให้ดำเนินการทุกโครงการด้วยความโปร่งใส และพร้อมตรวจสอบกรณีที่มีการร้องเรียนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งถือเป็นท่าทีที่ดีในการบริหารกระทรวง โดยยึดหลักธรรมาภิบาล ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นว่าการสะสางปัญหาทุจริตในองค์กรนี้จะดำเนินไปอย่างจริงจัง ไม่ใช่เป็นไปแบบลูบหน้าปะจมูก จึงอยากฝากให้ รมว.ดิจิทัลฯ ตรวจสอบใน 6 ประเด็น คือ

1. การจัดจ้างบริษัท ไอดีล ซิสเต็ม (ประเทศไทย) จำกัด เขียนโปรแกรมคีย์ข้อมูล เป็นเงิน 148.5 ล้านบาท สัญญา 18 เดือน สิ้นสุดวันที่ 7 กันยายน 2558 แต่กลับเพิ่งตรวจรับงานวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 ล่าช้าถึง 43 เดือน และมีการแก้ TOR จึงทำให้บริษัทไม่ถูกเรียกปรับ แล้วยังมีการใช้งบประมาณอีก 1,000 ล้านบาท ซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และคอมพิวเตอร์มาเตรียมไว้ก่อนที่โปรแกรมจะเสร็จถึง 3 ปี

2. โครงการพัฒนาระบบการส่งต่อโดยใช้เทคโนโลยี (RFID) งบประมาณ 43,873,722 ล้านบาท แต่อุปกรณ์ล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จ 

3. โครงการก่อสร้างศูนย์ไปรษณีย์โคกกลอย จังหวัดพังงา งบประมาณ 60 ล้านบาท สร้างเสร็จแล้วตั้งแต่ปี 2561 แต่ไม่มีการเปิดใช้

4. บอร์ดบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ไม่ยอมเลิกจ้างนางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ไม่ทำตามมติของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการดำเนินโครงการดิจิทัลชุมชนด้าน E-Commerce โดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 กำหนดให้ติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ในที่ทำการไปรษณีย์อนุญาตเอกชนและชุมชน เพื่อทำจุดขายโครงการ Point Of Sale (POS) 5,000 จุด แต่ติดตั้งไปเพียง 200 จุด จุดละ 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 20 ล้านบาท และภายในปี 2561 ต้องมียอดจำหน่าย 27 ล้านบาท แต่ครึ่งปี 2561 จำหน่ายได้ 30,000 บาทเท่านั้น

5. กำไรสุทธิของบริษัทไปรษณีย์ไทย ที่มีแนวโน้มลดลง สวนทางกับตลาดอีคอมเมิร์ซที่มียอดสูงขึ้น โดยปี 2559 กำไร 4,600 ล้านบาท , ปี 2560 กำไร 4,200 ล้านบาท , ปี 2561 กำไรเหลือ 3,800 ล้านบาท , ปีนี้ 2562 ช่วง 7 เดือนแรก มีกำไรเพียง 1,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าสิ้นปีก็จะไม่ถึง 3,000 ล้านบาท

6. คะแนนประเมินผลโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง ก็ลดต่ำลงเรื่อยๆ โดยปี 2559 ได้ 4.0572 คะแนน , ปี 2560 ได้ 4.1021 คะแนน , ปี 2561 ได้ 3.4134 หากได้คะแนนประเมินต่ำกว่า 3.1 จะทำให้พนักงานทุกคนไม่มีสิทธิ์ได้รับโบนัสในปีนั้น

นายแพทย์ระวี กล่าวว่า ตนคาดหวังว่า รมว.ดิจิทัล จะขับเคลื่อนไปรษณีย์ไทยให้บริหารงานอย่างโปร่งใส พัฒนาองค์กรให้มีศักยภาพในการแข่งขันกับเอกชนที่มีการเติบโตขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะหากไปรษณีย์ไทยไม่ปรับตัวเองจะกระทบต่อรายได้จนนำไปสู่ปัญหาใน อนาคตได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: