'คิม คาร์เดเชียน' เปิดตัวแบรนด์ชุดชั้นใน Kimono จนเกิดกระแสต่อต้านจากคนญี่ปุ่นที่มองว่าการตั้งชื่อแบรนด์ไม่เหมาะสม เพราะคำว่า 'กิโมโน' ไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกาย แต่เป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาติ อย่างไรก็ตาม คาร์เดเชียนยังยืนยันจะเดินหน้าธุรกิจต่อ
เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ 'คิม คาร์เดเชียน เวสต์' ดาราเรียลลิตีโชว์ชาวอเมริกันที่ผันตัวเป็นนักธุรกิจและนักออกแบบ เปิดตัวแบรนด์ชุดชั้นใน Kimono เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ทำให้เกิดกระแสต่อต้านในสื่อสังคมออนไลน์หลายประเทศ ทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ซึ่งต่างก็มองว่า 'คิม-โมโน' หรือที่พ้องเสียงกับ 'กิโมโน' นั้น ไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกาย แต่เป็นอัตลักษณ์ประจำชาติของชาวญี่ปุ่น การตั้งชื่อแบรนด์ชุดชั้นในของคาร์เดเชียนว่า 'กิโมโน' จึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสมทางวัฒนธรรม ทั้งยังมีความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นดั้งเดิม
ท่ามกลางกระแสโลกในปัจจุบันที่วัฒนธรรมแต่ละประเทศกำลังถูกกลืนหายหรือกร่อนรวมกับวัฒนธรรมชาติอื่น ๆ ส่วนหนึ่งจากค่านิยมตะวันตกที่หลั่งไหลเข้ามาในหลายประเทศ และญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบเหตุเช่นนี้ การตั้งชื่อแบรนด์ชุดชั้นในว่า Kimono จึงส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นยิ่งกว่าเดิม เบื้องต้น รายงานของบีบีซีกล่าวถึงชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งที่แสดงความเห็นบนทวิตเตอร์ว่า คิม เป็นคนดังที่มีอิทธิพลอย่างมากในโลกออนไลน์ และการที่เธอใช้คำว่า Kimono เป็นชื่อแบรนด์ อาจทำให้คนรุ่นใหม่ในโลกตะวันตกเข้าใจผิดไปว่า กิโมโนเป็นเพียงแบรนด์ชุดชั้นในเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม The New York Times สื่อของสหรัฐฯ ได้รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ คิม ซึ่งระบุว่า เธอเคารพในวัฒนธรรมที่แตกต่าง และเข้าใจคนญี่ปุ่นที่ออกมาต่อต้าน แต่ยืนยันว่าแบรนด์ Kimono ไม่เกี่ยวข้องกับกิโมโนของญี่ปุ่น เป็นเพียงการเล่นคำที่สอดคล้องกับชื่อ Kim ของตัวเองในภาษาอังกฤษเท่านั้น ไม่ต่างจากแบรนด์แฟชั่นที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ คือ Kimoji และ KKW
คิมย้ำว่า Kimono มาจากชื่อ Kim บวกกับคำว่า Solutionwear เพื่อสะท้อนแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบชุดชั้นในแบรนด์ Kimono ที่ต้องการผลิตชุดกระชับสัดส่วนตอบโจทย์ผู้หญิงทุกช่วงวัยที่มีสรีระและโครงสร้างร่างกายที่แตกต่างกัน โดยทางแบรนด์มุ่งหวังจะแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ไม่อาจหาชุดชั้นในที่เหมาะสมกับเรือนร่างของตัวเองได้