ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - 'สลัดผักพร้อมกิน' มื้อด่วนฮิตในเกาหลีใต้ - Short Clip
World Trend - 'รองเท้าผ้าใบ' เทรนด์สุขภาพมนุษย์เงินเดือน - Short Clip
World Trend - ญี่ปุ่นเล็งนำหุ่นยนต์เอไอมาสอนภาษาอังกฤษ - Short Clip
World Trend - เด็กไทยเสี่ยงภัยออนไลน์เกินค่าเฉลี่ยโลก - Short Clip
World Trend - ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นกว่า 2,200 ล้านคนภายในปี 2050 - Short Clip
World Trend - ซิลิคอนแวลลีย์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือที่ใด - Short Clip
World Trend - ประชากรโลกกว่า 95% เผชิญอากาศเสีย - Short Clip
World Trend - ​'แชร์พื้นที่อาศัย' เทรนด์ฮอตใหม่ในซิลิคอนแวลลีย์ - Short Clip
World Trend - ใส่ Adidas รุ่นใหม่ขึ้นรถสาธารณะฟรี - Short Clip
World Trend - ชาวอเมริกันเสพข่าวโซเชียลมากกว่าสิ่งพิมพ์เป็นครั้งแรก - Short Clip
World Trend - ญี่ปุ่นเผชิญวิกฤติอัตราเกิดน้อยเป็นประวัติการณ์ - Short Clip
World Trend - สปอตติฟาย ทดสอบฟีเจอร์กดข้ามโฆษณาได้ฟรี - Short Clip
World Trend - ชาวอเมริกันยอมจ่ายค่าสตรีมมิง 650 บาท/เดือน - Short Clip
World Trend - กรุงมอสโกต้อนรับถ้วยแชมป์บอลโลก 2018 - Short Clip
World Trend - แอปเปิลลบแอปฯ ผิดกฎหมายในจีนกว่า 2 หมื่นแอปฯ - Short Clip
World Trend - 'ปารีส' ห้ามรถดีเซลเก่าเข้าเมือง หวังลดมลพิษ - Short Clip
World Trend - วัยรุ่นจีน แรงขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสด- Short Clip
World Trend - กรมอุตุฯ จีนเผย มลพิษทางอากาศในจีนลดลง - Short Clip
World Trend - สวีเดนจะบรรลุเป้าพลังงานสะอาดในปีนี้ - Short Clip
World Trend - บริษัทดัตช์เล็งผลิตพลังงานสะอาดให้ทั้งยุโรป - Short Clip
World Trend - ปิดตำนาน 'โจเอล โรบูชง' เจ้าของมิชลิน 32 ดาว - Short Clip
Aug 7, 2018 16:31

ทั่วโลกอาลัย 'โจเอล โรบูชง' สุดยอดตำนานเชฟเจ้าของดาวมิชลินมากที่สุดในโลกด้วยสถิติดาวมิชลิน 32 ดวงในปี 2016 (ปัจจุบัน 31 ดวง) หลังเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งด้วยวัย 73 ปีที่กรุงเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์

สำนักข่าว AP รายงานว่าโฆษกของนายโจเอล โรบูชง เชฟชื่อดังชาวฝรั่งเศสเจ้าของดาวมิชลินมากที่สุดในโลก ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการผ่านทางสถานีโทรทัศน์ฝรั่งเศสช่องเบแอฟแอม (BFM) และทางหนังสือพิมพ์เลอฟิกาโร ระบุว่านายโรบูชงได้เสียชีวิตลงแล้วในวัย 73 ปีด้วยโรคมะเร็ง ที่กรุงเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์

นายโรบูชงมีชื่อเสียงโด่งดังโลดแล่นอยู่ในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน เริ่มต้นทำงานเป็นเชฟฝึกหัดเมื่อมีอายุเพียง 15 ปี ก่อนจะไปเข้าร่วมสมาคมผู้ช่ำชองศาสตร์แห่งคหกรรมในฝรั่งเศสเมื่ออายุ 21 ปี โดยในปี 1976 เขาถูกขนานนามให้เป็นหนึ่งในเชฟที่เก่งที่สุดในฝรั่งเศส และต่อมาในปี 1990 ก็ได้รับการขนานนามให้เป็นเชฟแห่งศตวรรษ ก่อนที่จะมาเป็นเชฟที่ถือครองดาวมิชลินมากที่สุดในโลกนานหลายปีจนนาทีสุดท้ายที่เขายังมีชีวิตอยู่

เขาได้รับการยกย่องอย่างมากในวงการอาหารชั้นสูงของประเทศฝรั่งเศสว่าเป็นเชฟที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านอาหารใหม่ ๆ อยู่เสมอพร้อมกับการนำเสนอลูกเล่นที่หลากหลายไม่รู้จบ จนนำไปสู่การสร้างอาณาจักรของร้านอาหารระดับไฟน์ไดนิงแถวหน้าอยู่ตามเมืองใหญ่ ๆ ทั่วทุกมุมโลกรวมถึงที่ใจกลางกรุงเทพมหานครของไทยด้วย

เชฟโรบูชงเริ่มต้นการทำอาหารในแบบฉบับของเขาด้วยการทำร้านอาหารในรูปแบบ 'ลัตเตอลิเย' หรือที่แปลว่าการทำเวิร์กชอปในภาษาฝรั่งเศส โดยจะมีลักษณะที่ไม่ใหญ่โต และมีความใกล้ชิดกันระหว่างลูกค้าและพนักงานทุกคนไม่ว่าจะเป็นเชฟ ซอมเมอร์ลิเยร์ พนักงานเสิร์ฟ ลูกค้าด้วยกันเองที่นั่งติดกันบนเคาน์เตอร์ หรือโต๊ะอาหารล้อมรอบครัวเปิดซึ่งสามารถมองเห็นขั้นตอนการปรุงอาหารของเชฟได้ทั้งหมด แต่ยังคงมีความเป็นส่วนตัว อบอุ่น และไม่ติดอยู่กับกฎเกณฑ์ใด ๆ ในการรับประทานอาหาร

ความตั้งใจของเชฟโรบูชงในตอนนั้นก็คือการมอบประสบการณ์แบบเป็นกันเองให้กับลูกค้า สร้างบรรยากาศที่ไม่เป็นทางการเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสเริ่มต้นบทสนทนากัน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะตรงกันข้ามกับหลักการให้คะแนนของทีมมิชลินไกด์ ที่โดยปกติแล้วจะไม่ได้คำนึงถึงแค่เทคนิคการปรุงอาหารของเชฟเท่านั้น แต่จะให้ความสำคัญกับทั้งบรรยากาศและการบริการของแต่ละร้านด้วย ซึ่งการให้บริการแบบ 'ลัตเตอลิเย' ดูจะไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่

อย่างไรก็ตามมิชลินไกด์และนักชิมทั่วโลกก็ต่างให้การยอมรับในการให้บริการร้านอาหารแบบ 'ลัตเตอลิเย' จนทำให้ร้านอาหาร 'ลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง' ของเชฟโจเอล โรบูชงนั้นสามารถทุบสถิติครองแชมป์ดาวมิชลินสูงสุดถึง 32 ดวงในปี 2016 และปัจจุบันยังคงสามารถรักษาแชมป์ได้มากถึง 31 ดวงในปีนี้ 

ปัจจุบันร้าน 'ลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง' มีทั้งหมด 12 สาขาทั่วโลกรวมถึงที่กรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ของอาคารคิวบ์ โครงการมหานคร เป็นการเสิร์ฟอาหารฝรั่งเศสแบบคลาสสิกร่วมสมัย ตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์ตาปาสบาร์ของสเปนกับซูชิบาร์ของญี่ปุ่น เพื่อให้แขกเห็นบรรยากาศการทำอาหารทุกขั้นตอนเสมือนนั่งชมละครเวที โดยมีทีมของเชฟโอลิวิเยร์ ลิมูแซง เป็นเชฟใหญ่ของร้าน ซึ่งเขาเริ่มต้นเข้าสู่วงการอาหารด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น

นอกจากเมนูอาหารที่มีวัตถุดิบนำเข้าชั้นเลิศจากฝรั่งเศส รวมถึงวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากประเทศไทยแล้ว ยังมีไวน์ชั้นนำจากทั่วโลกให้เลือกอีกด้วยตั้งแต่ราคาขวดละ 1,200 ถึง 680,000 บาท ส่วนอาหารมื้อกลางวันก็มีให้เลือกเริ่มต้นที่เซ็ตละ 950-1,950 บาท ส่วนมื้อเย็นก็มีให้เลือกทั้งแบบอาลาคาร์ท และแบบเทสติงเมนู ซึ่งราคาของเทสติงเมนูจะอยู่ที่ 4,950-6,950 บาท

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog