อีลอน มัสก์ ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้า ทวีตข้อความสะเทือนตลาดหุ้น ว่ากำลังพิจารณาเตรียมถอนบริษัท 'เทสลา' ออกจากตลาดหลักทรัพย์ที่มูลค่าสูงถึง 420 ดอลลาร์ต่อหุ้น
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลา ผู้นำด้านเทคโนโลยีและรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้สร้างความแตกตื่นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนของบริษัทอย่างมาก หลังจากทวีตข้อความบนบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาของสหรัฐฯ โดยระบุว่า เขากำลังพิจารณานำบริษัทเทสลาออกจากตลาดหุ้นที่ราคา 420 ดอลลาร์หรือราว 14,000 บาทต่อหุ้น ซึ่งเขาได้เตรียมเงินทุนไว้สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้แล้ว
หากเกิดขึ้นจริง การซื้อหุ้นเทสลาที่ราคา 420 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพื่อนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ของสหรัฐฯ จะส่งผลให้มูลค่าทางการตลาดของบริษัทเทสลา ซึ่งรวมหนี้สินแล้ว พุ่งขึ้นไปสูงถึง 82,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,724,000 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งตามรายงานของสำนักข่าว The Wall Street Journal ชี้ว่า การซื้อหุ้นคืนของบริษัทเทสลาเพื่อนำหลักทรัพย์ออกจากการจดทะเบียนในตลาดหุ้นครั้งนี้มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย มากกว่าการนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ของบริษัท TXU ซึ่งเป็นด้านการไฟฟ้าของมลรัฐฯ เท็กซัสในปี 2007 เสียอีก ซึ่งหากดูจากโปรไฟล์ของบริษัทเทสลาในขณะนี้นั้นไม่น่าจะสามารถทำได้
การทวีตเพียงไม่กี่ครั้งของนายมัสก์ได้สร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ให้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทำให้เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลายว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นเพียงการล้อเล่นหรือไม่ หรือนายมัสก์จะสามารถทำตามที่เขาทวีตได้สำเร็จหรือเปล่า และนั่นก็ทำให้หุ้นของเทสลาถูกระงับการซื้อขายสำหรับการเทรดในช่วงบ่ายวันอังคารตามเวลาของสหรัฐฯ โดย Bloomberg ระบุว่าหุ้นของเทสลามีราคาซื้อขายสุดท้ายของวันอังคารอยู่ที่ 379.57 ดอลลาร์ หรือราว 12,605 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์จากราคาปิดของวันจันทร์ที่ผ่านมา
The Wall Street Journal รายงานเพิ่มเติมว่าปัจจุบันนายอีลอน มัสก์ ถือครองหุ้นอยู่ 20 เปอร์เซ็นต์ของหุ้นทั้งหมดของบริษัทเทสลา โดยเป็นการอ้างอิงข้อมูลจาก S&P Global Market Intelligence เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2018 ซึ่งกลุ่มผู้ถือหุ้นและนักลงทุนของเทสลานั้นประหลาดใจอย่างมากที่นายมัสก์ประกาศผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวถึงกรณีดังกล่าว แทนที่จะแจ้งข่าวนี้ต่อผู้ถือหุ้นแบบเป็นการภายในเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเทสลายังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะหลังจากที่มีการรายงานข่าวออกมาว่า กองทุนบริหารความมั่งคั่งของประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้ทำการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทเทสลาราว 3-5 เปอร์เซ็นต์ หรือหากคิดเป็นจำนวนเงินก็จะอยู่ที่ 1,900 - 3,100 ล้านดอลลาร์
นายจีน มันส์เตอร์ หุ้นส่วนและผู้จัดการของบริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่อย่าง Loup Ventures ให้ความเห็นกับสื่อหลายแห่งของสหรัฐฯ ว่าไอเดียของการถอนบริษัทเทสลาออกจากตลาดหลักทรัพย์นั้นฟังดูมีเหตุผล พร้อมทั้งกล่าวว่านายมัสก์ไม่ต้องการบริหารงานบริษัทในรูปแบบของบริษัทมหาชนอีกต่อไป แต่เขามองว่าความเป็นไปได้ที่แผนของนายมัสก์จะสำเร็จนั้นมีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ซึ่งนายมัสก์เองยืนยันว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็ยังจะขอถือครองหุ้นในอัตราส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ของบริษัท และหวังว่าบรรดาผู้ถือหุ้นกลุ่มปัจจุบันจะยังคงทำงานร่วมกับบริษัทต่อไป