รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 4 เมษายน 2563
ว่อนโซเชียล! คลิปนายทหาร พูดชัด “ผู้ใหญ่”...อนุญาตให้พวกเรา (คนไทยที่ กลับมาจากต่างประเทศที่สุวรรณภูมิ) กลับบ้านได้...ไม่ต้องกักตัว แอดก็สงสัยเข้าข่ายชนวนเหตุให้คนตอบโต้กันในโลกออนไลน์หรือเปล่าเนี่ย!
นักวิเคราะห์ Talking Thailand ก็มอง “รัฐบาล” รับมือผลกระทบคนติดค้างที่สนามบินล่าช้า ตั้งแต่เย็นวันศุกร์ แต่มาประชุมหารือแนวทางเช้าวันเสาร์ ทั้งที่คนกลับบ้านไปแล้ว
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. แสดงความห่วงใยกรณีที่คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ เข้าสนามบินสุวรรณภูมิ แต่มีเหตุขัดข้องทำให้เกิดปัญหาและความไม่เข้าใจกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก โดยมอบหมายให้พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เรียกประชุมด่วนเมื่อเวลา 9.00 น. ที่ผ่านมา มีปลัดกระทรวงต่างๆ ร่วมประชุม และพบว่าผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 158 คน มีผู้ยินยอมรับการกักกันตัว 6 ราย ไม่รายงานตัว 152 คน โดยอ้างว่าไม่ได้รับการแจ้งมาก่อนจึงร้องขอกลับบ้านพัก จึงขอให้มารายงานตัว ในเวลา 18.00 น.วันที่ 4 เม.ย. และขณะนี้ทราบที่อยู่อาศัยแน่นอนทั้งหมดแล้ว
โดยผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ รายงานตัวได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินสุวรรณภูมิ หรือ EOC หรือที่หมายเลข 021329950 ส่วนผู้ที่กลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด ให้รายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัด หากไม่ให้ความร่วมมือจะมีโทษตามกฎหมายฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนคนในครอบครัว, ญาติ ที่ใกล้ชิดหรือสัมผัสผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ขอให้กักกันตัวอยู่ที่บ้านอย่างเคร่งครัด และยืนยันว่าผู้ที่เดินทางกลับทั้ง 158 คน จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี โดยใช้สถานที่กักกันเป็นโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ยืนยันว่าไม่ได้อยากลงโทษ แต่เป็นห่วงใยสุขภาพ และย้ำอีกว่า การเข้ามากักกันโรค ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เป็นการทำเพื่อประเทศชาติ ส่วนที่มีผู้ติดค้างที่สนามบินในต่าง ประเทศ ตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนฯ ขอให้ผู้ที่ตกค้างติดต่อไปยังสถานทูตไทย ณ ประเทศนั้น ๆ เพื่อขอรับความช่วยเหลือ สามารถค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ และให้เหตุผลถึงการห้ามทำการบินว่า เป็นการเตรียมพร้อมรับมือ เนื่องจากที่ผ่านมาสาธารณสุขยืนยันว่าแหล่งเชื้อโรคส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าววอยซ์ทีวี รายงานจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ รายงานว่ามีผู้ ทยอยเข้ารายงานตัว ที่ศูนย์ EOC โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บันทึกรายชื่อ ก่อนนำตัวขึ้นรถไปกักตัว ที่โรงแรมใกล้เคียง
พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง ระบุว่า การดำเนินการจะไปด้วยมาตรฐานที่วางไว้ แต่ยอมรับว่า เมื่อวานนี้อาจไม่ราบรื่น เพราะบางกระบวนการ ผู้โดยสารรอคอยนานกว่าปกติ เนื่องจากต้องจัดหมวดหมู่ เพื่อนำไปสู่สถานกักกันโรค
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่า เตรียมจะเปิดเผยรายชื่อ ผู้ที่ไม่มารายงานตัวภายใน 18.00 น.วันนี้ ให้สังคมรับรู้ ส่วนในด้านกฎหมายจะถูกดำเนินคดี ฐานความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.สาธารณสุข
ขณะที่ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า กระแสข่าวว่ามีผู้โดยสาร 3 คน มีไข้สูง หลบหนีไปกับกลุ่ม 152 คน / ขณะนี้บางคนติดต่อกลับมารับการกักตัว 14 วันตามขั้นตอนแล้ว ส่วนคนที่ยังไม่ติดต่อมา จะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใกล้ชิดและผิดกฎหมาย ขอให้ / ให้ความร่วมมือ และญาติพี่น้อง ไม่ต้องมารอรับ ให้ประสานพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และโซเชียลมีเดียเท่านั้น
ส่วนขอกังวลของผู้ที่ถูกกัก ยืนยันว่า ได้แยกผู้ที่เข้าข่ายออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนที่จะพาไปสถานกักกันโรคที่เตรียมไว้ ซึ่งมาตรฐาน 1 ห้อง จะให้พักได้ 2-3 คน โดยต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เป็นโมเดลเดียวกับการกักตัวของผู้ที่เดินมากลับมาจากเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน
ต่อมาปรากฏคลิปในโลกออนไลน์ ความยาวประมาณ 2 นาที อ้างอิงว่านายทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ สนับสนุนเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขในการคัดกรองผู้โดยสารที่กลับจากต่างประเทศ ในท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ ที่สื่อบางฉบับระบุว่า ทำให้คนไทย 152 คน กลับที่พักโดยไม่ถูกกักตัว เมื่อคืนวันที่ 3 เมย. ที่ผ่านมา