มาดูเทรนด์ของโทรศัพท์สมาร์ตโฟนรุ่นท็อปๆ ประจำปีนี้ โดยปี 2018 สมาร์ตโฟนระดับแฟล็กชิปทั้งหลายที่แต่ละค่ายเข็นออกมานั้น จะต้องมีฟีเจอร์อะไรที่เหมือนกันบ้าง
สมาร์ตโฟนระดับแฟล็กชิปหลายรุ่นที่ออกมาในช่วงปลายปีที่แล้ว มาจนถึงต้นปี 2018 นั้น มีคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน คือการใส่กระจกเข้าไปทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ไม่ว่าจะเป็น โนเกีย 8 ซิร็อกโค, ซัมซุง แกแล็กซี เอสเก้า และเอสเก้าพลัส, โซนี่ เอ็กซ์พีเรีย เอ็กซ์แซดสอง ไปจนถึงเอซุส เซนโฟนห้า ทุกรุ่นล้วนมีคุณสมบัติร่วมกันคือประกบหน้าและหลังด้วยกระจก ซึ่งช่วยให้ดีไซน์โดยรวมของโทรศัพท์มีความหรูหรามากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เปราะบางลงกว่าการใช้วัสดุประเภทอลูมิเนียม
สาเหตุที่ค่ายผู้ผลิตสมาร์ตโฟนจำนวนมากหันมาเลือกใช้วัสดุประเภทกระจก ก็เพื่อความสวยงาม และการให้น้ำหนักที่ดีเมื่อถืออยู่ในฝ่ามือ ในขณะที่ประโยชน์ทางด้านฟังก์ชันการใช้งานคือช่วยให้รองรับฟีเจอร์การชาร์จไร้สายได้ ซึ่งได้กลายเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่คนซื้อสมาร์ตโฟนราคาแพงต้องการ นอกจากนี้การใช้วัสดุประเภทกระจก ก็ยังช่วยให้การรับสัญญาณ Wi-Fi, LTE และบลูทูธ ทำได้ดีขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องฝังเส้นรับสัญญาณเข้าไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อสมาร์ตโฟนดีไซน์กระจกได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้ใช้ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้งาน เนื่องจากกระจกจะแตกได้ง่ายกว่าหากเผลอทำหลุดมือหรือกระแทกเข้ากับของแข็ง ซึ่งหากทำกระจกแตกและต้องนำไปเปลี่ยน ราคาที่จะต้องจ่ายก็ไม่ใช่น้อยๆ อย่างในกรณีของไอโฟนที่ไม่มีประกัน อาจจะต้องจ่ายค่าเปลี่ยนสูงเหยียบหมื่นบาท ดังนั้นจึงควรป้องกันด้วยการใส่เคสหรือใช้กระจกนิรภัยสำหรับสมาร์ตโฟนทันที่ซื้อเครื่องใหม่มา
ทั้งนี้วิธีการป้องกันสมาร์ตโฟนกระจกหลังที่ดีที่สุด นั่นเริ่มจากตัวเรา เก็บรักษาโทรศัพท์ของเราไว้อย่างดีที่สุด และมีสติทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาใช้งาน ก็น่าจะป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น หรือถ้ายังไม่สบายใจ การเลือกซื้อสมาร์ตโฟนที่ใช้วัสดุประเภทอื่นอย่างอลูมิเนียมหรือพลาสติกก็อาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด