ถ้าพูดถึงโทรศัพท์มือถือที่ขึ้นชื่อเรื่องแบตเตอรีอึด แน่นอนว่าหลายคนคงนึกถึง 'โนเกีย' มือถือสัญชาติฟินแลนด์ ซึ่งล่าสุด ได้เปิดตัว 'โนเกีย 2' ที่นอกจากแบตฯ จะทนแล้ว ยังมาในราคาเบาๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นเจ้าของได้
หลังโนเกียออกจากรั้ว 'ไมโครซอฟต์' ได้ไม่นาน ตำนานมือถือสัญชาติฟินแลนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความแข็งแรงทนทานแบรนด์นี้ก็ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนในระบบปฏิบัติการเพียวแอนดรอยด์มาแล้ว 4 รุ่น นับจากต้นปี 2017 ไม่ว่าจะเป็นโนเกีย 3, 5, 6 และล่าสุดกับ 'โนเกีย 2' สมาร์ตโฟนที่ยังคงจุดเด่นด้านแบตเตอรี ที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาไม่เกิน 3,500 บาท
(Design)
สำหรับดีไซน์ของโนเกีย 2 ไม่ได้หนักอย่างที่คิด สามารถหยิบจับได้สะดวก โดยตัวเครื่องขึ้นรูปจากอะลูมิเนียม และฝาหลังโพลีคาร์บอเนตผิวด้านที่สามารถแกะออกได้ หน้าจอ LCD ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 ระดับ HD ให้ความสว่างคมชัดและสีสันสดใส มองแล้วสบายตา นอกจากนั้น ตัวกระจกจอเป็นกอลิล่ากลาส 3 ยังแข็งแรง ป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี
(Camera)
หากถามถึงการถ่ายภาพ โนเกีย 2 จัดกล้องหลังมาให้ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งแม้จะถ่ายภาพสวย แต่คุณภาพสีอาจดูจืดไปสักหน่อย และถ่ายในที่แสงน้อยได้ไม่คมชัดนัก นอกจากนี้ ยังมีโหมดพาโนรามาสำหรับเก็บภาพกว้างได้ ส่วนกล้องหน้าจัดมาให้ 5 ล้านพิกเซล โดยมีโหมดบิวตี้ให้ถ่ายเซลฟีได้สนุกยิ่งขึ้น และสามารถปรับระดับสีผิวได้ค่อนข้างดี สำหรับการถ่ายวิดีโอนั้น สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ความคมชัดแบบ HD (720p) และยังสามารถถ่ายสโลวโมชั่นได้ด้วย แต่ต้องถ่ายด้วยความละเอียดที่ 480p เท่านั้น
(Performance)
โนเกียชูจุดเด่นในการเป็นเพียวแอนดรอยด์ แตกต่างจากแอนดรอยด์แบรนด์อื่นที่แต่ละค่ายมักนำ UI ของตัวเองมาครอบไว้ จนทำให้หน้าจอดูใช้งานยาก โดยโนเกีย 2 ยังให้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นล่าสุดอย่าง Android 7.1.1 Nougat มาพร้อมในตัวเครื่องอีกด้วย
โดยโนเกีย 2 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล 4 แกน 1.3 GHz มีพื้นที่จัดเก็บขนาด 8 GB และหน่วยความจำภายใน 1 GB สามารถเข้าแอปพลิเคชันดูหนังฟังเพลง เล่นเกมเบาๆ ได้ไม่สะดุด แต่อาจมีกระตุกและค้างบ้างเวลาใช้แอปพลิเคชันที่ต้องใช้ 3 มิติหนักๆ โดยรวมแล้ว ถือว่าทำงานได้ลื่นไหล ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ โนเกีย 2 ยังพ่วงแบตเตอรี่ขนาด 4,100 มิลลิแอมป์ ที่ชาร์จเพียงครั้งเดียว ก็สามารถใช้งานได้ถึง 2 วันเต็ม จากการทดสอบใช้งานจริง แบตโนเกีย 2 อึดทน เหมือนที่โนเกียเคลมไว้จริง ๆ ครับ
(Others)
ผู้ใช้งานยังสามารถเพิ่มความจุด้วย MicroSD Card ซึ่งรองรับความจุสูงสุดที่ 128 กิกกะไบต์ และยังมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดชนิด Nano Sim มาให้อีก 2 ช่อง พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE อีกด้วย
(Conclusion)
หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานโนเกีย 2 แล้ว พบว่าน่าประทับใจพอสมควร โดยสมาร์ตโฟนรุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ท่องโซเชียลมีเดีย ดูหนัง ฟังเพลงสตรีมมิง และที่สำคัญ หมดห่วงเรื่องแบตเตอรีได้เลย เพราะแบตฯ สามารถสแตนด์บายอยู่ได้นานจริงๆ ในส่วนของดีไซน์ แม้จะดูเรียบๆ แต่ก็สวยงาม หยิบจับได้กระชับมือ ไม่หนัก ไม่เบาจนเกินไป
โนเกีย 2 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ สีดำ สีขาว และสีดำแดง เริ่มวางจำหน่ายแล้วในราคา 3,490 บาท ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่คุ้มค่า คุ้มราคา เมื่อเทียบกับสเปกที่ให้มา สำหรับคุณผู้ชมที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนเพื่อใช้งานทั่วไป หรือใช้เป็นเครื่องสำรองยามฉุกเฉิน โนเกีย 2 เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ และสามารถตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี