วันนี้ระดับฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ และหลายจังหวัดของไทย อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งประชาชนควรหลีกเลี่ยงการออกนอกสถานที่ และเรียนรู้ที่จะรับมือมลพิษทางอากาศให้มากขึ้น
ช่วงเช้าวันนี้ หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ระยอง และขอนแก่น ได้ประสบปัญหามลพิษทางอากาศและมีหมอกในหลายพื้นที่ ซึ่งเว็บไซต์ Air Quality Data ได้เผยค่าเฉลี่ยดัชนีคุณภาพอากาศรายชั่วโมงว่าอยู่ในเกณฑ์อันตรายต่อสุขภาพ
โดยในกรุงเทพฯ เวลา 7 นาฬิกา ค่าเฉลี่ยได้พุ่งสูงถึง 203 หลังจากที่สองสัปดาห์ก่อน ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 174 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และลักษณะอากาศที่นิ่งเช่นนี้ยังมีโอกาสทำให้ฝุ่นละอองในบรรยากาศสะสมเพิ่มขึ้นได้
กรมควบคุมมลพิษ จึงเตือนให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากอาคาร พร้อมขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้งดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละออง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยานพาหนะ การเผา และการก่อสร้าง
องค์การอนามัยโลกเผยว่า ประชากรราว 12.6 ล้านคนทั่วโลก เสียชีวิตจากมลพิษสิ่งแวดล้อม โดยมลพิษทางอากาศถือเป็นปัจจัยเสี่ยงลำดับ 4 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1 ใน 10 ของประชากรทั่วโลก
หลายประเทศทั่วโลกจึงออกมาตรการแก้ไขมลพิษทางอากาศอย่างจริงจัง โดย BBC รายงานว่า สี่เมืองใหญ่ของโลก เช่น ปารีส เอเธนส์ เม็กซิโกซิตี และมาดริด เตรียมห้ามใช้รถยนต์ดีเซลภายในปี 2025 นอกจากนั้น ในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่ง ยังส่งเสริมให้ประชาชนซื้อรถยนต์ดีเซลประหยัดน้ำมัน เพราะจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการศึกษาให้เข้าใจว่าพื้นที่ไหนมีมลภาวะ และประชาชนได้รับผลกระทบอย่างไร