Nokia แบรนด์โทรศัพท์มือถือชื่อดังในอดีต ตอนนี้หันกลับมาทำการตลาดสมาร์ตโฟนอย่างจริงจังแล้ว ล่าสุดก็เพิ่มเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ถึง 5 รุ่นในประเทศไทย มีรุ่นอะไรบ้าง
Nokia แบรนด์สมาร์ตโฟนจากฟินแลนด์ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแบรนด์โทรศัพท์มือถืออันดับ 1 ของโลก ก่อนที่จะเริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลาเมื่อผู้บริโภคหันมาใช้สมาร์ตโฟน แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ชื่อของ Nokia เริ่มกลับมาเป็นที่สนใจของผู้บริโภคอีกครั้ง หลังจากที่ Nokia ได้เริ่มเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยชูจุดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อกับ Android One ซึ่งสมาร์ตโฟนของโนเกียจะได้รับการอัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยรุ่นล่าสุดทุก ๆ เดือน ติดกันเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี และอัปเดตระบบปฏิบัติการเป็น Android รุ่นใหม่ถึง 2 เวอร์ชัน ในระยะเวลา 2 ปี ทำให้สมาร์ตโฟนของ Nokia ยิ่งใช้งานนาน ระบบจะยิ่งดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเมนูการใช้งานที่เข้าใจง่าย การออกแบบเรียบหรู มีความคงทน และราคาก็สมเหตุสมผล
ล่าสุด บริษัท HMD Global เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายสมาร์ตโฟนแบรนด์ Nokia ทั่วโลก ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดถึง 5 รุ่นในประเทศไทย ซึ่งตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม เพราะมีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ราคาไม่กี่พันบาท อย่าง Nokia 2.2 สมาร์ตโฟนรุ่นเล็ก ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 2,900 บาท แต่มีเทคโนโลยีถ่ายภาพ AI มีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า แบตเตอรี่ใช้งานได้ตลอดวัน มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ที่สามารถอัปเกรดเป็น Android Q ได้ทันที
ถัดมาเป็น Nokia 3.2 ที่มีราคา 4,790 บาท มาพร้อมหน้าจอความคมชัดระดับ HD Plus ขนาด 6.2 นิ้ว ซึ่งใหญ่ที่สุดในกลุ่มสมาร์ตโฟนที่มีราคาระดับเดียวกัน เพลิดเพลินไปกับการชมรายการออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากหน้าจอจะใหญ่แล้ว แบตเตอรี่ยังใช้งานได้นาน 2 วัน และยังมี Google Assistant ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน
ขยับขึ้นมาที่รุ่น Nokia 4.2 ซึ่งแม้จะมีราคาเพียง 5,290 บาท แต่มีความสามารถใกล้เคียงกับสมาร์ตโฟนระดับแฟล็กชิป ด้วยหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD Plus มาพร้อมกับระบบกล้องคู่ที่ด้านหลัง ที่มีเทคโนโลยี multi camera imaging ช่วยเก็บรายละเอียดของภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มีโหมดถ่ายภาพมืออาชีพที่รองรับการบันทึกภาพแบบ RAW ไฟล์ สามารถปลดล็อกได้ด้วยใบหน้าและการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง
ถัดจากสมาร์ตโฟนรุ่นราคาประหยัดแล้ว เรามาดูสมาร์ตโฟนระดับแฟล็กชิปรุ่นใหม่ที่เปิดตัวกันบ้าง กับรุ่น Nokia 8.1 ที่มีหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ใช้เทคโนโลยี PureDisplay ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของโนเกีย ซึ่งแสดงภาพสีได้อย่างแย่นยำแม้จะอยู่ในที่ที่สว่างจ้า กล้องหลัง 2 ตัวใช้เลนส์จาก Zeiss ของเยอรมนี มีระบบ AI ที่ตรวจจับการถ่ายรูปได้มากถึง 18 รูปแบบ แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 2 วัน ตัวเครื่องใช้ดีไซน์ไร้ขอบ เพิ่มความหรูหราด้วยโลหะขัดเงาและเคลือบผิวสองชั้น ราคา 11,490 บาท
ปิดท้ายกันที่สมาร์ตโฟนรุ่นพิเศษ Nokia 9 PureView ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกล้องหลังที่ใช้เลนส์คุณภาพสูงของ Zeiss มากถึง 5 ตัว แบ่งเป็นเลนส์ภาพสี 2 ตัว และเลนส์ขาวดำอีก 3 ตัว ซึ่งทำงานร่วมกัน ช่วยให้เก็บแสงได้มากกว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปถึง 10 เท่า ทำให้รูปภาพที่ออกมามีมิติและสีสันที่สมจริง นอกนี้ยังสามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสหน้าชัดหลังเบลอได้หลังจากที่ถ่ายภาพแล้ว หน้าจอขนาด 5.9 นิ้ว ใช้เทคโนโลยี PureDisplay ซึ่งให้สีสันคมชัดในทุกสภาพแสง การออกแบบใช้ดีไซน์ไร้รอยต่อ ทนทานต่อแรงกระแทก และกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP67 ซึ่ง Nokia PureView เป็นรุ่นพิเศษที่จำหน่ายในบางประเทศเท่านั้น ราคาอยู่ที่ 17,900 บาท
การนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ พร้อมนวัตกรรมที่น่าสนใจ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายของ Nokia ทั่วโลกค่อย ๆ ดีขึ้นในแต่ละปี โดยขณะนี้ Nokia มียอดขายทั่วโลกอยู่ในอันดับที่ 13 ซึ่งทางผู้บริหารคาดหวังจะมอบประสบการณ์ด้านการใช้งานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เพื่อให้มีการแนะนำโนเกียต่อไปยังลูกค้าคนอื่น
สำหรับผู้ที่สนใจสมาร์ตโฟน Nokia ทั้ง 5 รุ่น ขณะนี้เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งทางโนเกียเชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทย