ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวทีประกาศรางวัลใหญ่ ๆ ในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดทุกวันนี้กลายเป็นพื้นที่แสดงจุดยืนของศิลปินที่ได้รับรางวัลไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการเรียกร้องเหล่านั้นจะสัมฤทธิ์ผล เพราะล่าสุดมีข่าวออกมาว่า แพทริเซีย อาร์เคตต์ ที่เคยเรียกร้องค่าจ้างเท่าเทียมระหว่างชายหญิงบนเวทีออสการ์ ก็ยังต้องเจอกับการเสนอค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม
เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2015 แพทริเซีย อาร์เคตต์ นักแสดงหญิงมากฝีมือ ขึ้นรับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมบนเวทีงานประกาศรางวัลอะคาเดมี อวอร์ดส หรือ ออสการ์ จากภาพยนตร์เรื่อง Boyhood และเธอได้ใช้เวลาช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนั้น ไปกับการกล่าวสุนทรพจน์เรื่องความเท่าเทียมในการจ้างงาน และเรียกร้องให้มีการจ่ายค่าจ้างแรงงานชายหญิงอย่างเท่าเทียม โดยระบุว่า 'แด่ผู้หญิงทุกคนที่ให้กำเนิดบุตรให้กับพลเมืองผู้จ่ายภาษีทุกคน เราได้ต่อสู้เพื่อสิทธิที่เท่าเทียมของผู้อื่นมามากแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่เราต้องมีความเท่าเทียมในค่าจ้างแรงงานได้เสียที ตลอดจนความเท่าเทียมอื่น ๆ สำหรับผู้หญิงทั่วสหรัฐฯ' แต่ล่าสุด The Daily Beast เว็บไซต์ข่าวและบทวิเคราะห์สัญชาติอเมริกัน ที่มักเจาะลึกเรื่องการเมืองและป๊อบคัลเจอร์ ได้เผยแพร่บทความ "Patricia Arquette Is Still Offered ‘Bullshit’ Unequal Pay, Even After Her Oscars Speech" ซึ่งแปลว่า "แพทริเซีย อาร์เคตต์ ยังคงได้รับการเสนอค่าจ้างที่ไม่แฟร์ แม้ว่าจะเคยต่อสู้เพื่อความเสมอภาคไปบนเวทีออสการ์ก็ตาม"
ทั้งนี้ อาร์เคตต์ กำลังอยู่ในช่วงโปรโมตซีรีส์เรื่องใหม่ Escape at Dannemora ของช่อง Showtime ที่เธอรับบทพนักงานในเรือนจำ ที่ไปมีความสัมพันธ์กับนักโทษคู่หนึ่ง จนตัดสินใจช่วยพวกเขาหลบหนี ซึ่งถือเป็นอีกบทบาทท้าทายที่เธอเลือกเล่น หลังจากที่รับงานแสดงมาหลากหลายบทตลอด 30 ปีในวงการฮอลลีวูด ซึ่งก็ทำให้เธอได้รับรางวัลมาทั้งออสการ์และเอ็มมี เรียกได้ว่า เธอเป็นนักแสดงอีกคนที่มีผลงานให้ชมทั้งภาพยนตร์และทางโทรทัศน์ โดยที่ไม่เคยถูก Typecast หรือ เจาะจงเป็นบทใดบทหนึ่งในรูปแบบเดิมตลอด
อาร์เคตต์ ให้สัมภาษณ์กับ The Daily Beast ถึงการร่วมจัดตั้งโครงการรณรงค์จ้างงานอย่างเท่าเทียมกับองค์การสหประชาชาติ ตลอดจนช่วยผลักดันกฎหมายจ้างงานอย่างเป็นธรรมของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเธอระบุว่า หลายครั้งทีเดียว ที่มีผู้หญิงเข้ามาทักทายและกล่าวขอบคุณเธอ โดยบอกว่าหลังจากการเรียกร้องบนเวทีออสการ์ของเธอนั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในชีวิตของผู้หญิงกลุ่มนั้น อย่างไรก็ตาม สุนทรพจน์ที่ว่า กลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวอาร์เคตต์เองเท่าไร
เธอกล่าวว่า เธอต้องตัดใจทิ้งโปรเจกต์มากมายในฮอลลีวูดไป เพราะผู้ว่าจ้างจำนวนมากยังเสนอดีลที่ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งกับเธออยู่ และยิ่งไม่ยุติธรรมไปกว่านั้น เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่นักแสดงชายได้ ซึ่งถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็ไม่ได้ทำให้เธอหยุดค้นหาบทบาทที่จะแสดงถึงฝีมือและบทบาทของผู้หญิงแกร่งในสังคม ทำให้แต่ละโปรเจกต์ที่เธอได้รับเป็นผลงานที่ภาคภูมิใจ
ทั้งนี้ อาร์เคตต์ เคยให้เหตุผลว่าทำไมเธอจึงเลือกเรียกร้องผ่านเวทีออสการ์ โดยกล่าวว่า เธอรับรางวัลนั้นจากบทซิลเกิลมัมที่หาเลี้ยงลูกและเป็นเสาหลักของครอบครัว ซึ่งมันทำให้เธอกลับมาทบทวนว่าตัวละครนี้จะมีชีวิตไปในทิศทางใด หากได้รับค่าจ้างอย่างเป็นธรรม อาร์เคตต์ ระบุว่า ผู้หญิงในสหรัฐฯ ยังคงได้รับค่าจ้าง 78 เซ็นต์ ในงานที่ผู้ชายได้รับ 1 ดอลลาร์ ซึ่งการจำแก้ไขปัญหานี้ได้ จำเป็นต้องมีกฎหมายที่เข้มแข็ง และภาคประชาชนต้องร่วมมือกันกดดันรัฐ เพื่อให้ปัญหานี้กลายเป็นวาระสำคัญ