ไม่พบผลการค้นหา
อินเดียเล็งส่ง 'มอเตอร์ไซค์-สามล้อ' บุกตลาดไทย
CLIP BIZ FEED : เต่าออมสินเหยื่อการท่องเที่ยวที่ไร้การจัดการ
Biz Feed - เอเชียทุ่มเงินเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษ แต่เหลื่อมล้ำสูง - FULL EP
Biz Insight  ฝังไมโครชิพในตัวพนักงาน ช่วยให้ทำงานสะดวกขึ้น
เด็กไทยจ่ายเงินซื้อขนมมากสุดในเอเชียแปซิฟิก
สตาร์ทอัพจะล่ม หากไม่สร้างสรรค์สิ่งใหม่
Biz Feed - เงินสะพัดธุรกิจสัตว์เลี้ยงเกือบ 3 หมื่นล้านบาท - Short Clip
ผลสำรวจชี้ ไทยติดอันดับ 6 เบียร์ถูกที่สุดในโลก
 Biz Insight :  ชนชั้นกลางจีนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จน้อยลง
Biz Feed - mPAY ผนึก Rabbit LINE PAY ดันไทยสู่สังคมไร้เงินสด - Short Clip
World Trend - อัตราการเพิ่มประชากรจีนจะถดถอยในปี 2030 - Short Clip
ชาวจีนเที่ยวเชิงแพทย์เพิ่ม-ช่วย รพ.เอกชนไทยเติบโต
วัววากิวคุณภาพ ฝีมือชุมชน จ.สุรินทร์
The Toppick - หนี้เสียของจีน เพิ่มขึ้น 10% ภายในเวลา 6 เดือน - Short Clip
ปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ในเอเชียพุ่ง 63% ในช่วง 5 ปี
Biz Feed - ธุรกิจกัญชาดึงดูดบุคคลากรชั้นแนวหน้าจากทั่วโลก - Short Clip
The Toppick - แผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ 11 ล้านตันละลายใน 1 วัน - Short Clip
'การบินไทย' หวังกู้วิกฤติด้วยเที่ยวบิน ไทย-สหรัฐฯ
7-11 อินโดฯล้มดีล ไม่ขายให้ยักษ์ใหญ่ CP
นักสิทธิฯ แนะตั้งกองทุนช่วยเหลือเหยื่อเรือประมงไทย
บ.ญี่ปุ่นเล็งย้ายธุรกิจประมงจากไทยไปอินโดนีเซีย
Aug 28, 2017 12:36

บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นด้านธุรกิจแปรรูปสัตว์น้ำเตรียมย้ายฐานการผลิตจากไทยไปยังอินโดนีเซีย หลังจากที่รัฐบาลอินโดนีเซียบังคับใช้มาตรการเข้มงวดในการปราบปรามธุรกิจประมงเถื่อนและห้ามจับสัตว์น้ำในทะเลอินโดนีเซีย

นางซูซี ปุดจยาสตุตี รัฐมตรีว่าการกระทรวงกิจการทางทะเลและประมงแห่งอินโดนีเซีย กล่าวว่าบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นหลายแห่งแสดงความสนใจที่จะย้ายฐานการผลิตในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประมงจากประเทศไทยไปยังอินโดนีเซีย เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลอินโดนีเซียมีความจริงจังในการแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมายและการใช้แรงงานทาสบนเรือประมง และบริษัทที่ยืนยันว่าจะย้ายจากไทยไปยังอินโดนีเซียแน่นอนคือ บริษัท อิโตชู ซึ่งเป็นเครือธุรกิจขนาดใหญ่และมีอายุเก่าแก่เกือบ 200 ปีของญี่ปุ่น

นางซูซีระบุว่าด้วยว่าบริษัทอิโตชูแสดงความจำนงที่จะขยายการลงทุนในด้านอื่นๆ ของบริษัทในเครือ ซึ่งมีทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค มายังอินโดนีเซีย และรัฐบาลอินโดนีเซียจะเจรจาต่อรองเรื่องมาตรการภาษีสินค้าส่งออก เพราะที่ผ่านมาญี่ปุ่นยังตั้งกำแพงภาษีร้อยละ 7 กับผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแปรรูปจากอินโดนีเซีย ในขณะที่ประเทศไทยได้รับการยกเว้นภาษีในส่วนของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว 

ขณะเดียวกัน เดอะจาการ์ตาโพสต์ สื่อของอินโดนีเซีย รายงานว่าการบังคับใช้มาตรการควบคุมและปราบปรามการประมงผิดกฎหมายของรัฐบาลอินโดนีเซีย ซึ่งมีผลตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา โดยเฉพาะคำสั่งห้ามเรือประมงที่ต่อขึ้นในต่างประเทศห้ามขนถ่ายปลากลางทะเล รวมถึงการห้ามใช้อวนลากและอวนล้อมในการจับปลาในน่านน้ำทะเลอินโดนีเซีย ตลอดจนการสั่งจมเรือประมงที่ได้รับการยืนยันว่าลักลอบเข้าหาปลาอย่างผิดกฎหมายทิ้ง ซึ่งการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับทั้งหมด ทำให้ทรัพยากรในทะเลอินโดนีเซียมีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น และสามารถดึงดูดให้บริษัทด้านแปรรูปสัตว์น้ำและการประมงหลายแห่งเตรียมพิจารณาลงทุนเพิ่มเติมในอินโดนีเซีย โดยเฉพาะบริษัทจากญี่ปุ่นและรัสเซีย

จากข้อมูลของทางการอินโดนีเซีย พบว่าการบังคับใช้มาตรการด้านการประมงรูปแบบใหม่ ช่วยให้สถิติการจับสัตว์น้ำของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11 หรือประมาณ 2 ล้านตัน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ทั้งยังสามารถจับปลาทูนาที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 50 ถึง 80 กิโลกรัม ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดญี่ปุ่นและรัสเซียได้เพิ่มขึ้นด้วย

ด้านนายทาโระ โกโนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น แถลงด้วยว่าญี่ปุ่นและอินโดนีเซียจะร่วมมือกันจัดสัมมนาและฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีให้แก่บุคลากรของทั้งสองประเทศที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและปราบปรามการประมงผิดกฎหมาย เพิ่มเติมจากความร่วมมือด้านการตรวจสอบและกำกับดูแลกิจการประมงระหว่างประเทศที่ดำเนินมาแล้วก่อนหน้านี้ รวมถึงจะมีการตั้งศูนย์วิจัยและส่งเสริมศักยภาพการประมงด้วย

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog