ทีม THE CAVEนางนอน ยืนยันภาพยนตร์ที่กำลังจะออกฉาย ไม่กระทบลิขสิทธิ์ 'ทีม 13 หมูป่า' ของ Netflix เพราะนำเสนอในส่วนของทีมกู้ภัย-จิตอาสา และได้ 'จิม วอร์นี่' นักดำน้ำชาวเบลเยี่ยม บุคคลจริงในเหตุการณ์ที่ร่วมภารกิจช่วยทีม 13 หมูป่า นำแสดงด้วย ขณะที่ภาพยนตร์ 'ทีม 13 หมูป่า' นำเรื่องราวที่เผยแพร่สู่สาธารณะมาถ่ายทอด
จากเรื่องจริงที่คนทั่วโลกร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ใน 'ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน' เมื่อปีที่แล้ว ถูกจัดทำเป็นภาพยนตร์ไทย THE CAVE นางนอน โดยผู้กำกับทอม วอลเลอร์พร้อมลงจอฉายแล้ว หลังรวบรวมข้อมูล และพยายามหาแง่มุมถ่ายทอด โดยมีผู้อยู่ในเหตุการณ์จริง นักดำน้ำ และ จิตอาสา กว่า 10 คน มาร่วมให้ข้อมูล เพื่อถ่ายทอดเหตุการณ์จริงสู่ภาพยนตร์ โดยเน้นไปที่ทีมกู้ภัยและการช่วยเหลือ
เดอ วอร์เรนท์ พิคเจอร์บริษัทผลิตภาพยนตร์ของทอม วอลเลอร์ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ พร้อมชี้แจงกรณีลิขสิทธิ์ของ 13 หมูป่า ว่าเรื่องราวในภาพยนตร์ไม่ได้ลงลึกไปในส่วนเนื้อหาชีวิตของโค้ชและเยาวชนทีมหมูป่าทั้ง 13 คน แต่เน้นไปที่ทีมกู้ภัย โดยได้นำหนังไปฉายให้กองเซ็นเซอร์ตรวจแล้ว พร้อมได้เรตติ้ง ท (เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไป)
'คทรีน่า กลอส' โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่องนี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลของ 13 หมูป่า ในภาพยนตร์ได้นำข้อมูลที่ได้ถ่ายทอดสู่สาธารณะมาใส่ ทำให้ตามกระบวนการขั้นตอนไม่จำเป็นต้องขอลิขสิทธิ์ หากต้องการข้อมูลเชิงลึก ต้องขออนุญาตผ่านคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์กรณีถ้ำหลวง จ.เชียงราย
"เนื้อหาหลักในภาพยนตร์ของเราเล่าเรื่องจากทีมกู้ภัยส่วนใหญ่ ก่อนหน้านี้เราเคยติดต่อภาครัฐตั้งแต่ยังไม่มีคณะกรรมการ จนมีคณะกรรมการดูแล เราได้ส่งบทของเราเข้าไปเพื่อตรวจสอบ แต่ทางภาครัฐแจ้งว่าไม่เข้าข่ายต้องพิจารณา เพราะไม่ได้เล่าเรื่องจากมุมมองของเด็กๆ ทีม 13 หมูป่า ซึ่งทางเราไม่ได้เกี่ยวกับ เน็ตฟลิกซ์ ที่ซื้อลิขสิทธิ์เรื่องราว 13 หมูป่าไปทำ"
ในภาพยนตร์ THE CAVE นางนอนได้บุคคลจริงในเหตุการณ์ที่ได้เข้าปฏิบัติภารกิจช่วยทีม 13 หมูป่า อย่างจิม วอร์นี่นักดำน้ำชาวเบลเยี่ยม มาร่วมให้ข้อมูลจริงและร่วมแสดง โดยเป็นความบังเอิญ เพราะขณะที่เตรียมงานภาพยนตร์ คทรีน่า และ ทอม ได้เดินทางไปเที่ยวไอร์แลนด์ และได้รู้จักกับ จิม วอร์นี่ ซึ่งอาศัยอยู่ที่ไอร์แลนด์ จึงได้พูดคุย และข้อนำเรื่องราวมาสร้างภาพยนตร์
โดยจิม วอร์นี่เผยว่า "ผมรู้สึกภูมิใจ ที่ได้มีส่วนช่วยเหลือทีม 13 หมูป่า ตอนนั้นมีความรับผิดชอบหลายอย่าง หลังภารกิจเสร็จสิ้น ผมรู้สึกว่า เรื่องราวของผม น่าจะได้ถูกถ่ายทอดออกมา วิธีการเล่าเรื่องของ ทอม ผ่านภาพยนตร์ ผมชอบมาก ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาจากเหตุการณ์จริงได้ตรงที่สุด"
ส่วนการถ่ายทำ ทีมงานได้ลงพื้นที่ไปถ่ายทำหลายที่ ทั้งที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน , การถ่ายทำในถ้ำจริงๆ และการเซ็ตฉากขึ้นมาซึ่งยังได้จิม วอร์นี่ให้ข้อมูลการจัดวางอุปกรณ์ช่วยเหลือ และ 'ระดับน้ำ' ที่ตรงกับเหตุการณ์จริงที่สุดสำหรับTHE CAVE นางนอนบอกเล่าเรื่องราวสุดลุ้นระทึกของภารกิจการช่วยเหลือระหว่างประเทศ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคปัจจุบัน ผ่านมุมมองของอาสาสมัคร และหน่วยกู้ภัยที่ต้องเผชิญหน้ากับความเป็น ความตาย ความมุ่งมั่น และการเสียสละ เพื่อช่วยทั้ง 13 ชีวิตให้ปลอดภัย แม้จะอันตรายแค่ไหนก็ตาม
เรื่องนี้ยังได้อาสาสมัครตัวจริงบางส่วนที่เคยร่วมภารกิจ นอกเหนือจากจิม วอร์นี่ นักดำน้ำชาวเบลเยี่ยม ยังมี เอริก บราวน์ ครูสอนดำน้ำชาวแคนาดา, ถันเซี่ยวหลง ครูสอนดำน้ำในถ้ำชาวจีน, มิคโค พาซี นักดำน้ำชาวฟินแลนด์ และ นภดล นิยมค้า ผู้ผลิตเครื่องสูบน้ำเทอร์โบเจ็ท พร้อมด้วยทีมนักแสดง นิรุตติ์ ศิริจรรยา ในบท รัฐมนตรี, ปอย ตรีชฎา ในบท นักข่าว, ไมเคิล เชาวนาศัย ในบท เจ้าหน้าที่อุทยาน, เบสท์-เอกวัฒน์ นิรัตน์วรปัญญา ในบท โค้ช และนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่ง
ซึ่งสุดสัปดาห์นี้ THE CAVE นางนอนจะได้ฉายรอบเวิลด์พรีเมียร์ ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ก่อนเข้าฉายในไทย 28 พฤศจิกายนนี้