การประท้วงในฮ่องกงกำลังย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 13 ขณะที่การรวมตัวครั้งใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้ถูกจับกุมประมาณ 36 คน ข้อหาใช้ความรุนแรงก่อกวนความสงบ ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนเริ่มมองหาวิธีการอื่นๆ เพื่อสื่อความหมายในการประท้วงโดยไม่ใช้ความรุนแรง
การชุมนุมประท้วง 'ร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากฮ่องกงไปจีนแผ่นดินใหญ่' ยังดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยการประท้วงช่วงหลังๆ ได้ยกระดับเป็นการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย และการปฏิรูประบบการเมืองในฮ่องกง เขตบริหารพิเศษของจีน ซึ่งผู้ชุมนุมจำนวนม��กประกาศว่า จะไม่ยุติการเคลื่อนไหวจนกว่ารัฐบาลฮ่องกงจะยอมทำตามเงื่อนไขในข้อเรียกร้อง 5 ประการของกลุ่มผู้ชุมนุม
แต่การประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม มีการใช้ระเบิดขวดขว้างปาเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตอบโต้ความพยายามที่จะสลายการชุมนุม รัฐบาลฮ่องกงจึงออกแถลงการณ์ประณามผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรง โดยระบุว่าเป็นเรื่องผิดฎหมาย และทำให้ฮ่องกงเข้าสู่จุดเสี่ยงที่จะเกิดสถานการณ์อันตราย
ด้วยเหตุนี้ ผู้ประท้วงจำนวนมากที่ไม่ต้องการใช้ความรุนแรง แต่อยากจะสะท้อนความไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาลฮ่องกงและจีน จึงหันไปสู่วิธีการเชิงสัญลักษณ์แทน ซึ่งก็คือการสักลวดลายต่างๆ บนร่างกายของตัวเอง
ลายยอดนิยมที่ผู้ประท้วงฮ่องกงเลือกสักลงบนร่างกายของตัวเอง มีตั้งแต่ 'ร่ม' ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงใหญ่ตั้งแต่ปี 2014 และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการชุมนุมในปีนี้ รวมถึงหน้ากาก หรือหมวกกันน็อก ซึ่งผู้ชุมนุมใส่เพื่อป้องกันแก๊สน้ำตาจากตำรวจ นอกจากนี้ยังมีลาย 'ดอกชงโค' ที่เป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกง และตัวอักษรภาษาจีนที่มีความหมายว่า 'สุมเชื้อไฟ'
ผู้ที่เลือกสักลายเหล่านี้บอกว่า เขาต้องการหล่อเลี้ยงความมุ่งมั่นของผู้ชุมนุมประท้วงครั้งนี้เอาไว้ และผู้ชุมนุมบางรายก็บอกกับสื่อว่า พวกเขาเลือกที่จะสักลายเพื่อเตือนใจตัวเอง ไม่ว่าการประท้วงครั้งนี้จะจบลงอย่างไรหรือเวลาผ่านไปอีกนานแค่ไหน พวกเขาต้องการจะจดจำเอาไว้ว่า ครั้งหนึ่ง พวกเขาเคยออกมาต่อสู้เรียกร้องเพื่อสิทธิและเสรีภาพในฮ่องกงมาก่อน
ศิลปินช่างสักลายในฮ่องกงยืนยันว่า ปรากฏการณ์ที่คนฮ่องกงเลือกสักลวดลายเกี่ยวกับการประท้วงมีเพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2014 และช่างสักลายจำนวนมากที่เห็นด้วยกับการประท้วง ก็เลือกที่จะประกาศจุดยืนของตัวเองด้วยการสักลายต่างๆ ให้ผู้ประท้วงโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย