พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมตรี นำคณะสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) สำนักงานสัมพันธวงศ์ กรมการค้าภายใน ตำรวจนครบาล และ สมาคมผู้ค้าทองคำ ลงพื้นที่ย่านเยาวราช แหล่งค้าขายทองรูปพรรณใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร เพื่อพบปะผู้ประกอบการ สร้างความเข้าใจมาตรฐานการจำหน่ายทองรูปพรรณให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2544) และฉบับที่ 13 (พ.ศ.2546)
โดย พวงเพ็ชร และคณะ สคบ. ได้ตรวจเยี่ยมร้านค้าทองชั้นนำ จำนวน 8 แห่ง คือ 1) บริษัท ห้างขายทอง ทองใบเยาวราช (1988) จำกัด 2) บริษัท ห้างขายทองจินฮั้วเฮง จำกัด 3) บริษัท ห้างขายทองฮั่วเซ่งเฮง จำกัด 4) บริษัท เล่งหงส์ จำกัด 5) ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างค้าทองยู่หลงกิมกี่ 6) บริษัท ที.พี.เอช (2004) จำกัด 7) บริษัท ทอง 24 กะรัต จำกัด และ 8) บริษัท ห้างขายทองเลี่ยงเซ่งเฮง จำกัด โดยได้ตรวจสอบคุณภาพทองคำตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลากกำหนด ซึ่งร้านทองต้องแสดงราคาขายทองแท่งและทองรูปพรรณแต่ละวันให้ชัดเจน มีการแสดงราคารับซื้อคืนและมีการแสดงค่ากำเหน็จ มีป้ายบอกประเภทสินค้าชัดเจนว่าเป็นสร้อย แหวน กำไล มีการระบุปริมาณความบริสุทธิ์ของทองรูปพรรณ ระบุระบุหน่วยเป็นกะรัตหรือเปอร์เซ็นต์ หรือร้อยละ หรือใช้สัญลักษณ์ K หรือ % แทนก็ได้ เช่น 96.5% หรือ 99.99% รวมถึงต้องระบุน้ำหนักของทองแต่ละชิ้นให้ชัดเจนระบุหน่วยเป็นกรัมหรือใช้สัญลักษณ์ ก หรือ g แทนก็ได้ อันนี้ยังต้องการแสดงราคาให้ระบุเป็นเงินสกุลไทย และจะระบุเป็นสกุลอื่นหรือใช้สัญลักษณ์ของสกุลเงินแทนก็ได้
พวงเพ็ชร กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทองคำรูปพรรณถือเป็นสินค้าที่มีการซื้อขายเป็นจำนวนมาก โดยนิยมมอบเป็นของฝาก ของขวัญ ซึ่งจากการลงพื้นที่วันนี้พบว่าผู้ประกอบการร้านค้าทองให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการฉลากกำหนดครบถ้วน โอกาสนี้ ขอความร่วมมือร้านค้าทองไม่เอาเปรียบผู้บริโภค และหากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม ซื้อสินค้าแล้วไม่ได้มาตรฐานตามที่แสดงในฉลาก สามารถร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน OCPB Conncet หรือโทรสายด่วน สคบ. 1166