รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการควบคุมตัว จ่าสิบโทเขมรัฐ บุญช่วย หรือ แฮกเกอร์ 9near ผู้ต้องหาฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการโพสต์ขายข้อมูลที่อ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการว่า เรื่องนี้มีความแปลกประหลาด แปลกที่หนึ่งคือ ทั้งที่เจ้าหน้าที่รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นแฮกเกอร์ ออกหมายจับตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2556 ปัจจุบันวันที่ 12 เมษายน 2566 ใช้เวลานานถึง 9 วันในการควบคุมตัว
“ค่อนข้างเชื่อว่าเรื่องนี้มีบางคนอยู่เบื้องหลัง อาจเป็นผู้บังคับบัญชา บุคคลระดับสูงในกองทัพ เป็นเหตุผลว่าทำไมการควบคุมตัวแฮกเกอร์คนนี้ ถึงเต็มไปด้วยความยากลำบาก”
รังสิมันต์ กล่าวกล่าวต่อว่า แปลกที่สอง คือมีความพยายามปกป้องไม่ให้มีการเข้าถึงจ่าสิบโทคนดังกล่าว เห็นได้จากตอนควบคุมตัว สัญญะที่สื่อออกมาค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้สื่อมวลชนซักถาม ราวกับจะกีดกันเพราะเกรงว่าแฮกเกอร์อาจซัดทอดไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงขอเรียกร้องให้มีการขยายผลให้เกิดความชัดเจน อย่าให้จบแค่การควบคุมตัว เพราะหากสุดท้ายจับคนเบื้องหลังไม่ได้ ได้แค่คนตัวเล็กตัวน้อย ข้อมูลของประชาชนก็อาจหลุดได้อีก
“พรรคก้าวไกลเป็นห่วงเรื่องนี้ รวมถึงการจัดการข้อมูลที่หลุดออกมา จะทำอย่างไรให้แน่ใจได้ว่าไม่มีแบ็กอัป หรือสำรองไว้ที่ใดที่อาจทำให้ข้อมูลหลุด ให้มิจฉาชีพคนอื่นแสวงหารายได้หรือผลประโยชน์ ทำให้ประชาชนจำนวนมากอาจตกเป็นเหยื่อ” รังสิมันต์ กล่าว
ทั้งนี้ ขอฝากไปถึงกระทรวงสาธารณสุข เงียบมากในเรื่องนี้ ทั้งที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าข้อมูลหลุดมาจากแอปหมอพร้อม ควรออกมาให้ความมั่นใจแก่ประชาชนหรือไม่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
“ทำไมทหารยศจ่าสิบโท ถึงสามารถแฮกได้ ถ้าไม่ได้เป็นเพราะจ่าสิบโทคนดังกล่าวเก่งมาก ก็เป็นไปได้ว่าระบบจัดการข้อมูลของรัฐอ่อนแอมาก หรือเป็นเพราะข้อมูลเหล่านี้ ฝ่ายความมั่นคงในกองทัพเข้าถึงได้อยู่แล้ว ดังนั้นควรชี้แจงให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจว่าการใช้เครื่องมือของรัฐมีความปลอดภัย ไม่ใช่ใครจะล้วงออกไปง่ายๆ” รังสิมันต์ กล่าว
ส่วนกรณี ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ระบุว่ากรณีแฮกเกอร์ 9near เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องการเมือง แต่มีกลุ่มการเมืองบางฝ่ายนำมาดิสเครดิตนั้น รังสิมันต์กล่าวว่า ถ้าหน่วยงานของรัฐทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี จับกุมแฮกเกอร์ได้ตั้งแต่วันแรก ป้องกันไม่ให้มีข้อมูลรั่วไหล คงไม่มีใครไปดิสเครดิตได้ ปัญหาก็คือความล้มเหลวของดีอี ชัยวุฒิเป็นรัฐมนตรีมาตั้งนาน ทำให้ข้อมูลของประชาชนปลอดภัยขึ้นบ้างหรือไม่ ทุกวันนี้ประชาชนเจอปัญหาทั้งข้อมูลหลุด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สูญเสียเงินจากการถูกหลอกลวง กระทรวงฯ ทำอะไรบ้าง
“ในฐานะพรรคการเมือง เราพยายามตามหาความชัดเจนจากรัฐเพื่อปกป้องประชาชน สิ่งที่กระทรวงดีอีควรทำคือให้ความปลอดภัยแก่ประชาชน ไม่ใช่มาบอกว่าคนที่พยายามตรวจสอบนั้นดิสเครดิต อย่าคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนตัวเอง” รังสิมันต์ กล่าว