ไม่พบผลการค้นหา
เปิดสถิติของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองนิวยอร์กซิตี้ พบว่าผู้ติดเชื้อ 48 เปอร์เซ็นต์จากยอดผู้ติดเชื้อ 15,597 รายมีอายุต่ำกว่า 45 ปี และเป็นเพศชายถึง 56 เปอร์เซ็นต์ อัตราการเสียชีวิตของประชากรชายสูงถึง 61 เปอร์เซ็นต์

รัฐนิวยอร์ก ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ได้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 หลังจากมีผู้ติดเชื้อมากถึง 30,811 ราย และกว่า 17,000 รายของผู้ติดเชื้อในรัฐนิวยอร์กอยู่ในเมืองนิวยอร์กซิตี้ ซึ่งย่านควีนส์ เป็นย่านที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด

นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์กกล่าวว่า 'สถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนประชากรชาวนิวยอร์กกว่าครึ่งอาจจะได้รับเชื้อโควิด-19'

ข้อมูลจากหน่วยงานด้านสุขภาพของนิวยอร์กเปิดเผยสถิติของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองนิวยอร์กซิตี้ พบว่าผู้ติดเชื้อ 48 เปอร์เซ็นต์จากยอดผู้ติดเชื้อ 15,597 ราย มีอายุต่ำกว่า 45 ปี และเป็นเพศชายถึง 56 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตราการเสียชีวิตของประชากรชายก็สูงถึง 61 เปอร์เซ็นต์

ทางด้านรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 60 เปอร์ซ็นต์ในสหรัฐฯ อยู่ในพื้นที่ของนิวยอร์ก ซึ่งปัจจุบันสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 68,489 ราย

ทางด้านนายไมค์ เพนส์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องให้ผู้ที่เดินทางออกจากนิวยอร์กกักตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วัน

"เราต้องรับมือกับพื้นที่บริเวณตัวเมืองนิวยอร์กซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาด" นายไมค์ เพนส์กล่าว

ตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้นิวยอร์กกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์และบุคลากรที่ปฏิบัติงาน โดยรัฐบาลท้องถิ่นของนิวยอร์กระบุว่า ปัจจุบันมีบุคลากรทางด้านสาธารณสุขทั้งสิ้น 40,000 รายและเกือบครึ่งหนึ่งเป็นพยาบาล ขณะที่จำนวนผู้ป่วยกำลังเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อที่รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 3,800 ราย ซึ่งคิดเป็นเพียง 12 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อเท่านั้น ขณะที่มีผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิกฤต 888 ราย

นอกจากนี้นิวยอร์กกำลังเผชิญหน้ากับความขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยที่มีแนวโน้มอยู่ในภาวะวิกฤต ทั้งนี้ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า ต้องการเครื่องช่วยหายใจประมาณ 30,000 เครื่อง แต่ปัจจุบันมีเพียง 4,000 เครื่องเท่านั้น

ที่มา CNBC / the guardian / NY times

ข่าวที่เกี่ยวข้อง